เนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล
18 ธันวาคม IMD : International Migrant Day 2021 สมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) กล่าวว่า ทุกๆ ปี ของวันนี้ เป็นวันแรงงานข้ามชาติสากล (International Migrants Day) หรือเป็นวันผู้ย้ายถิ่นสากล ด้วยการประกาศของ UN ซึ่งมาจากอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและครอบครัว ค.ศ.1990 เพื่อให้แรงงานข้ามชาติ และผู้ติดตามในประเทศต่างๆ ได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน สิทธิที่ต้องได้รับ การได้รับการปฏิบัติที่ดีจากรัฐบาลประเทศนั้นๆ ทั้งประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติเพราะความแตกต่างทางเชื้อชาติ ภาษา สีผิว และเพศสภาพ ฯลฯ
และทุก ๆ ปี หน่วยงานภาคีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านแรงงาน ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ (Campaign) แลกเปลี่ยนความรู้จากการปฏิบัติและทางวิชาการ การถอดบทเรียนการทำงาน การรณรงค์เชิงนโยบายต่อภาครัฐ (Advocacy) การส่งเสียงจากพี่น้องแรงงาน (Voices for Labour) การแสดงออกทางวัฒนธรรม การสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลง การสื่อสารเพื่อการณ์ณรงค์ (Advocacy Media) การออกมาเดินบนท้องถนน การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ “แพลตฟอร์ม” หรือ Platform ต่าง ๆ
ที่สำคัญยิ่ง ข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ ของหน่วยงานภาคีความร่วมมือ สถาบันวิชาการ/ CSO/ Private Sector / Migrant Labour Group ที่รัฐบาลต้องตระหนักและนำไปพินิจพิจารณา วิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ และนำไปตัดสินใจในเชิงนโยบาย เป็นโจทย์ที่สำคัญยิ่ง เราจะทำอย่างไรให้ถึงมือนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ประเทศไทยปฏิเสธไม่ได้ว่า "ไม่ต้องการแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะชาวเมียนมา ลาว และกัมพูชา และส่วนหนึ่งจากเวียดนาม
ประเทศไทย ต้องไม่ปฏิเสธ "การมีแนวนโยบายที่ดี แนวปฏิบัติที่ดี การปกป้องคุ้มครอง การไม่คุกคามในชีวิต การไม่กระทำซ้ำขูดรีดทางนโยบาย การออกระเบียบ คำสั่งที่ขัดต่อกฎหมาย และสิทธิมนุษยชน เมื่อมีการให้แรงงานข้ามชาติทำงานและพักอาศัยในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ต้องไม่เอารัดเอาเปรียบกดขี่ ขูดรีด รีดไถ เรียกรับส่วย ต่างๆ นานา จากความไม่รู้กฎหมาย จากความไม่เท่าทัน จาก "ความกลัว" ของแรงงานข้ามชาติ
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นายจ้าง ผู้ประกอบการในรูปแบบต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาต่าง ๆ ที่ รัฐบาลให้สัตยาบัน ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นายจ้างหรือผู้ประกอบการต้องไม่ละเมิดสิทธิในชีวิต ร่างกาย การกดขี่ขูดรีดแรงงาน การทำให้เป็นรายงานบังคับ แรงงานทาส ค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง
LPN และเครือข่ายความร่วมมือ แนวร่วมต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ยังคงมั่นส่งเสริมคุณภาพชีวิต คุ้มครองสิทธิ ความเสมอภาค การพึ่งตนเอง และสรรค์สร้างการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติ
และปรารถนาใน 10 ปีข้างหน้าว่า “ประชากรอาเซียน แรงงานข้ามชาติ ต้องได้รับยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีจากนโยบายสังคมและสวัสดิการที่ดีที่เกิดจากทุกคนมีส่วนร่วมผลักดันและตัดสินใจร่วมกันของประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียน เราจะยืนหยัดไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะมุงมั่นพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดความยั่งยืนในทุก ๆ มิติ และเกิดความเหลื่อมล้ำให้น้อยที่สุด นี้คือฝันที่ผมอยากเห็นใน 10 ปีข้างหน้า”
เชื่อมั่นว่า มือเราที่ลงมือทำสิ่งดีๆ จะเปลี่ยนแปลงได้
เชื่อมั่นว่าทุกภาคี ความร่วมมือภาครัฐ องค์กรภาคธุรกิจ องค์กรภาคประชาสังคมและเครือข่ายทางสังคมที่น้องแรงงานได้มาร่วมมือกัน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้
คุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานดี ผลประกอบการดี เศรษฐกิจของประเทศไทยไปต่อได้ และสมควรได้รับการชื่นชมหากมีการ "บริหารจัดการแรงงานข้ามชาติได้ดีในประเทศไทย" และรัฐบาลไทยฟังเสียงพวกเรานำไปปรับเปลี่ยนนโยบายให้เกิดผลดีและยั่งยืนได้