
ตามมติในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ได้รับรองให้วันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล” หรือ Universal Health Coverage Day: UHC Day เพื่อผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อดูแลสุขภาพประชากรในประเทศของตนเอง
โดยในปี 2564 นี้ องค์การอนามัยโลกรณรงค์โดยชูประเด็น “Leave No One’s Health Behind, Invest in Health System for All” หรือ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน เพื่อให้นานาประเทศตระหนักรับรู้และกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศตนให้ประชาชนสุขภาพดี
รวมถึงคุ้มครองทุกคนภายใต้สถานการณ์โรคโควิด-19 โดยมุ่งมั่นให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงการเร่งสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้บรรลุภายในปี 2573 หรือ UHC2030 ตามคำรับรองปฏิญญาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชนประจำปี 2562 เมื่อเดือนกันยายน 2562 และมุ่งให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)
ประเทศไทยนับว่าประสบความสำเร็จในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเริ่มกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปี 2545 มีการประกาศเป็นนโยบายชัดเจนโดยรัฐบาลและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง จนเป็นต้นแบบให้กับนานาประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
ทั้งนี้ จากรายงานความครอบคลุมประชากรสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติล่าสุด อยู่ที่ร้อยละ 99.85 จากปี 2545 อยู่ที่ร้อยละ 90.79 ขณะที่อัตราการเข้าถึงบริการ บริการผู้ป่วยนอก อยู่ที่ร้อยละ 3.45 (164.06 ล้านครั้ง) บริการผู้ป่วยใน ร้อยละ 0.12 (5.85 ล้านครั้ง) เพิ่มขึ้นจากปี 2545 บริการผู้ป่วยนอกอยู่ที่ร้อยละ 2.45 (111.95 ล้านครั้ง) บริการผู้ป่วยใน ร้อยละ 0.09 (4.30 ล้านครั้ง)