เดือด! อ้าง "เวียดนาม" สั่งเตือน "มิสแกรนด์" ปมชู 3 นิ้วหวั่นกระทบไทย

กลายเป็นข่าวดราม่าก่อนหน้านี้ เมื่อ “เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน” (Nguyen Thuc Thuy Tien) สาวสวยวัย 23 ปี ชาวเวียดนาม คว้ามงกุฎ “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021” คนที่ 9 ของโลก แต่ไฮไลท์นอกจากความสวยของตัวเธอแล้ว คงเป็นการชูสัญลักษณ์ “3 นิ้ว” บนเวทีการประกวด

ซึ่งเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) “เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน” เปิดใจกับเนชั่นออนไลน์ถึงเรื่อง “ชู 3 นิ้ว” ว่า  “ตามความเข้าใจตนเอง การทำให้โลกน่าอยู่มี 3 ปัจจัย คือ สันติภาพ มิตรภาพ และความเท่าเทียม ดังนั้นการชูสามนิ้วของตัวเอง หมายถึง 3 สิ่งที่ต้องการจะสื่อ”

ล่าสุดนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "Fuangrabil Narisroj" ว่า ได้รับทราบจากน้องๆ ที่ทำงานที่เวียดนามส่งข่าวด่วนมาว่า ทาง กต.เวียดนาม ได้ออกแถลงการณ์ในกรณีนางงามเวียดนามมาชู 3 นิ้วในไทยแล้ว

โดยทางการเวียดนามเห็นแก่ คสพ.ไทย เวียดนามเป็นสำคัญ จึงได้ทำการสั่งสื่อเวียดนามมิให้นำเสนอภาพและข่าวนางงามเวียดนามชู 3 นิ้วในไทยโดยเด็ดขาด

“รวมทั้งกระทรวงวัฒนธรรมได้สั่งการให้นางงามเวียดนามคนที่ชู 3 นิ้ว หยุดแสดงพฤติกรรม หรือคำพูดที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างไทยและเวียดนามด้วยเช่นกัน”

ต้องขอขอบคุณรัฐบาลเวียดนามอย่างมากมา ณ ที่นี้ครับ ที่ได้แสดงออกและตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนไทยและเวียดนามเป็นสำคัญ 

ข้อความแถลงการณ์จาก กต.เวียดนาม ขอนำเสนอมาพร้อมนี้ครับ

“MOFA had sent all media coverage / video clips / articles of Ms.Nguyen Thuc Thuy Tien, Miss Grand Vietnam expressing Hunger Games’ hand symbol and her interview to all relevant Vietnamese authorities.

Ministry of Culture of Vietnam had particularly, been notified to take action and to remind Ms. Nguyen Thuc Thuy Tien to refrain from making public speeches on issue that may affect bilateral between Thailand and Vietnam.

MOFA hopes both sides will downplay such incident to avoid misunderstanding or allow 3rd party to use such event to provoke misunderstanding and let this affect our excellent relations.

Vietnam upholds and attaches greatest importance to the Strengthned Strategic Partnership”

ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนสติ “ใคร” ก็ตามที่คิดจะใช้คนต่างชาติมาทำการเคลื่อนไหว หรือแสดงพฤติกรรมทางการเมืองใดๆ อันอาจเป็นเหตุให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครับ สิ่งที่ทำจะได้ไม่คุ้มเสีย และอาจบานปลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้โดยไม่จำเป็น