เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพส่งท้ายฤดูกาล 2020-2021 หลังจากหยุดแข่งขันยาวถึง 20 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยสองรายการใหญ่สองสัปดาห์ติดต่อกันที่จังหวัดภูเก็ต และได้รับการขนานนามว่าเป็น “เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีส์” โดยเริ่มจากรายการ บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามบลู แคนยอน คันทรี คลับ เมื่อวันที่ 25-28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามด้วยรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม โดยทั้งสองรายการมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิงรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 180,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 6 ล้านบาท จากนั้นจะไปแข่งขันสองรายการสุดท้ายที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนมกราคมปีหน้า
รอบสุดท้ายของการแข่งขัน (5 ธ.ค.) โปรเพชร-พชร คงวัดใหม่ วัย 22 ปีจากสงขลา เจ้าของสองแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ปีนี้ ประคองตัวเข้ามาอีเว่นพาร์ 70 จาก 4 เบอร์ดี้ 4 โบกี้ โดยเฉพาะพัตต์พาร์ที่หลุมสุดท้ายเพื่อคว้าแชมป์ จบด้วยสกอร์รวมสี่วัน 10 อันเดอร์พาร์ 270 คว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ รายการแรกนับตั้งแต่ลงเล่นมา 6 ปี พร้อมรับเงินรางวัล 180,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6 ล้านบาท
โดยมี โปรเดวิด-เด่นวิทย์ บริบูรณ์ทรัพย์ รุคกี้วัย 17 ปี ที่เพิ่งเทิร์นโปรเล่นอาชีพได้ 10 รายการ รั้งรองแชมป์ร่วมกับ โปรมะพร้าว-ภาณุพล พิทยารัฐ วัย 28 ปีจากกรุงเทพฯ เจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ โอเพน เมื่อปี 2018 และ คิม ไบโอ ผู้นำสามรอบแรกจากเกาหลีใต้ ที่สกอร์คนละ 9 อันเดอร์พาร์ 271 รับเงินรางวัลไปคนละ 74,333 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท
พชร คงวัดใหม่ เผยหลังคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ ครั้งแรกนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2014 ว่า “ก่อนออกไปเล่นวันนี้ผมเห็นสภาพลมรู้เลยว่าต้องยากมาก เป็นวันที่ดี เซฟได้เยอะ อาจทำไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่โดยรวมสนามยากมาก ใครเซฟได้ดีกว่าก็เป็นของคนนั้น โดยหลุมสุดท้ายมีโอกาสลากลงไปเหมือนปิดจ๊อบ ก็เกินคาดมาก ดีใจมาก ก่อนแข่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะช่วงนี้เกมของผมค่อนข้างดี เปิดโอกาสให้ตัวเองมากขึ้น พยายามไม่ให้เสียสกอร์ จนถึงหลุม 18 ก็ตื่นเต้นและสนุกมาก คิดแค่ว่าปล่อยลูกให้ตรง พัตต์ให้ถึง รู้สึกทั้งตื่นแต้นและเกินคำว่าดีใจเพราะรอมานาน ในที่สุดก็ทำได้”
ขณะที่โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา รองแชมป์บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจบที่ 8 อันเดอร์พาร์ 272 อยู่อันดับ 5 ร่วมรับเงินรางวัลไป 37,150 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท
ทางด้าน เด่นวิทย์ บริบูรณ์ทรัพย์ กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “วันนี้พอใจกับเกมการเล่นมาก เพราะเปิดไปดี มีพาร์ เบอร์ดี้ อีเกิ้ล รู้สึกดี แต่มาเสียหลุม 5 ,7 และ 8 ทำให้เกมไม่นิ่งเท่าไหร่ แต่มาได้คืนเก้าหลุมหลัง สี่วันสกอร์ 9 อันเดอร์ ถือว่าพอใจ เพราะอาทิตย์นี้ลมแรงมาก ไม่ได้เล่นง่ายเท่าที่คิด เพราะสนามกรีนเร็วขึ้น รัฟยาว และลมแรง ได้ประสบการณ์จากการเล่นเอเชียนทัวร์ว่าต้องเล่นให้รอบคอบมากขึ้น ห้ามพลาดง่ายๆ”
สำหรับนักกอล์ฟที่น่าสนใจรายอื่นๆ ทำสกอร์ได้ดังนี้ เนติพงศ์ ศรีทอง 7 อันเดอร์พาร์ 272 อันดับที่ 7 ร่วม, พรหม มีสวัสดิ์ 6 อันเดอร์พาร์ 274 อันดับ 10 ร่วม ชนะโชค เดชภิรัตนมงคล 5 อันเดอร์พาร์ 275 อันดับ 14 ร่วม เป็นต้น
ส่วน ทีเค-รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ วัย 14 ปี คว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นยอดเยี่ยม เป็นสนามที่สองติดต่อกัน โดยจบสกอร์วันสุดท้ายได้อีก 1 อันเดอร์พาร์ 69 สี่วันรวม 2 อันเดอร์พาร์ 278 ในอันดับที่ 30 ร่วมของทัวร์นาเมนท์
สรุปผลการแข่งขัน