รายงานความคืบหน้าล่าสุด นายสตีเฟน โฮก ประธานบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ( Moderna Inc.) เปิดเผยผ่านสำนักข่าว รอยเตอร์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม2564 โดยระบุว่า บริษัทฯ อาจจะได้ทำการทดสอบวัคซีนเข็มกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และพร้อมที่จะยื่นขออนุมัติใช้งานต่อทางการสหรัฐฯ ได้อย่างเร็วภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
โดยวัคซีนเข็มกระตุ้นที่มีรหัสพันธุกรรมเฉพาะ พร้อมพุ่งเป้าไปยังการกลายพันธุ์ที่พบใหม่ในโควิดสายพันธุ์โอมิครอน จะเป็นหนทางที่รวดเร็วที่สุดในการแก้ปัญหาการลดลงของประสิทธิ ภาพวัคซีนตามที่คาดการณ์ไว้ พร้อมยืนยันว่าบริษัทได้เริ่มโครงการพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับโอมิครอนแล้วในตอนนี้
นอกจากนี้ โมเดอร์นา ยังกำลังพัฒนาวัคซีนแบบ Multivalent ที่มีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดได้ครอบคลุมถึง 4 สายพันธุ์ รวมถึงโอมิครอน แต่คาดว่าการพัฒนาอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
ทั้งนี้ แนวทางปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับการยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA นั้น จำเป็นต้องมีการทดลองทางคลินิกในระยะกลางเป็นอย่างน้อย ซึ่งส่งผลให้กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลา 3-4 เดือน
วัคซีนเข็มกระตุ้นเฉพาะสำหรับโอมิครอน ตามความเป็นจริงจะไม่ได้ก่อนเดือนมีนาคม และอาจจะเลยไปถึงไตรมาสที่ 2 ยกเว้นว่า FDA จะเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติสำหรับข้อมูลที่ต้องการเพื่อยื่นขออนุมัติใช้วัคซีน
ประธานบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ยืนยันอีกว่า โมเดอร์นา จะสามารถผลิตวัคซีนได้ในระหว่างทดลองทางคลินิก เพื่อให้ได้วัคซีนพร้อมใช้งานโดยเร็วที่สุด ขณะที่บริษัทฯ อาจเสนอให้ FDA รับรองการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัส ซึ่งเป็นแนวทางที่คล้ายกับการยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนสำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงแทบทุกปี ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการขออนุมัติใช้งานวัคซีนสั้นลง
“เข็มกระตุ้นต้านโควิดกลายพันธุ์โอมิครอน คาดพร้อมขออนุมัติใช้งานได้ในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยวัคซีนเข็มกระตุ้นที่มีรหัสพันธุกรรมเฉพาะ นี่อาจจะเป็นหนทางที่รวดเร็วที่สุดในการแก้ปัญหาการลดลงของประสิทธิภาพวัคซีน” สตีเฟน โฮก ประธานโมเดอร์นา กล่าว