สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นางดาเรีย ฮาซูดา รองประธานฝ่ายวัคซีนและโรคติดต่อของ บริษัท เมอร์ค แอนด์ โค แถลงวานนี้ (30 พ.ย.) ว่า ยาเม็ด “โมลนูพิราเวียร์” (molnupiravir) ที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นมา โดยความร่วมมือกับ บริษัท ริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ มีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น สายพันธุ์เดลตา ที่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้
นางฮาซูดา ชี้แจงคุณสมบัติของยาโมลนูพิราเวียร์ ต่อ คณะกรรมการที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) ซึ่งทางคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ได้จัดการประชุมเพื่อหารือกันว่าจะให้การอนุมัติสำหรับการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในการรักษาโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ และล่าสุดผลการประชุมออกมาแล้วว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA มีความเห็น "อนุมัติ" การใช้ยาดังกล่าวด้วยคะแนนสนับสนุน 13 เสียงจากทั้งหมด 23 เสียง
ล่าสุด คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ได้ทำการพิจารณาว่า ยาโมลนูพิราเวียร์มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์เป็นยาที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการรักษาโรคโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมดังกล่าวคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ยังจะต้องทำรายงานเสนอความเห็นในประเด็นนี้ ให้ทาง FDA พิจารณาเป็นขั้นสุดท้ายเพื่อการอนุมัติอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนธ.ค. นี้
โดยทั่วไป FDA มักมีมติ “สอดคล้อง” กับความเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษาดังกล่าว แม้ว่าโดยหลักการแล้ว FDA “ไม่จำเป็น” ต้องดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาล่าสุดนั้น FDA ได้ให้การอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการที่ปรึกษาดังกล่าว
ทั้งนี้ หากทาง FDA ให้การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์อย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะเป็นการปลดล็อกให้มีการใช้ยาดังกล่าวในสหรัฯ โดยจะมีการวางจำหน่ายในตลาดได้โดยทั่วไป และยังจะเป็นการปลดล็อกสำหรับการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ทั่วโลกด้วย เนื่องจากหน่วยงานสาธารณสุขของหลายประเทศยังไม่ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ หากยาดังกล่าวยังไม่ได้รับการรับรองจาก FDA
โดยกระแสข่าวในช่วงก่อนหน้านี้ ได้มีบางประเทศ เช่น อังกฤษ ที่ได้อนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ล่วงหน้าไปก่อนแล้วแม้ว่า FDA ยังไม่ได้ให้การรับรอง เนื่องจากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดพุ่งสูง ทำให้ อังกฤษเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์อย่างเป็นทางการ โดยสำนักงานควบคุมกฎระเบียบยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของอังกฤษ (MHRA) ได้ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์สำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ยา 1 คอร์สของเมอร์คสำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ประกอบด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้ง ๆ ละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน
ในช่วงเดือนต.ค. ทาง เมอร์ค เปิดเผยว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ สามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 50% อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2564 เมอร์ค ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่ ซึ่งชี้ว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้เพียง 30% เท่านั้น
แม้ข้อมูลดังกล่าวนี้จะเผยความน่าเชื่อถือ ทว่าทาง คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ก็ยังเห็นชอบการอนุมัติใช้ยาดังกล่าวอีกครั้ง!!