30 พฤศจิกายน ที่ศาลฎีกาแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกระฐมนตรีและ แกนนำกปปส. พร้อมทีมทนายความ เดินทางไปศาลฎีกาฯ ตามที่ป.ป.ช.นัดส่งตัวฟ้องศาล กรณีทุจริตสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ
นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันไม่ได้กระทำการใดที่ผิดจากมติคณะรัฐมนตรี ทั้งเรื่องสั่งการและการพิจารณาต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมายระเบียบปฏิบัติ และในฐานะที่กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตัดสินใจในแง่ของนโยบาย การปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอนุมัติตามที่มีการเสนอในราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าผ่านการประมูลโดยชอบตามกฎหมายแล้ว จึงได้ลงนาม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ส่วนการสร้างสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จ เป็นเรื่องของการบริหารจัดการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“ยืนยันขอต่อสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง คราวนี้ถือเป็นโอกาสดี ที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวหาการทุจริต โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจในศาลฎีกา หลัง ป.ป.ช.สอบสวนคดีมานานนับ 10 ปี ส่งผลต่อชื่อเสียง ทั้งที่ได้ต่อสู้เรื่องต้านการทุจริตมาตลอด แต่มาถูกกล่าวหาการทุจริตเสียเอง” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อ คดีนี้อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมีข้อไม่สมบูรณ์ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะดำเนินคดีกับตน แต่วันนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องเอง ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก ต้องติดตามว่าพยานหลักฐานที่ ป.ป.ช. จะนำมาแสดงต่อศาล เมื่อเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานของตัวเองจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ มั่นใจกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การทำงานและกระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. เพราะถือว่าเป็นคู่ความในคดีแล้ว
ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เปิดเผยว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมายื่นประกันตัว ส่วนศาลจะตีราคาประกันเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล