svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ​ ขอ ประชาชน อย่ารอเลือกยี่ห้อวัคซีน ​ลั่น ลดความรุนแรง​โรคได้​หมด

25 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายกฯ​ ขอ ประชาชน อย่ารอเลือกยี่ห้อวัคซีน ​ลั่น ลดความรุนแรง​โรคได้​หมด ชี้ รัฐบาลต้องการเสถียรภาพ​​ ไม่แบ่งแยก​ ชวนเปิด​​ "ชิลไปไหน Chillpainai" YouTube​ ดูท่องเที่ยว​ไทย เหน็บ ทำให้รักประเทศขึ้นเยอะ​

25 พฤศจิกายน 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี”  โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า​ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มอบรางวัลที่ได้มอบรางวัลในวันนี้​ ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาล​  และยืนยันว่า​ รัฐบาลดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงปี 2564-2565 บนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  ให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตแบบวิถี New Normal หรือ Universal​ Prevention​ ซึ่งยอมรับว่า​ สถานการณ์ในขณะนี้ดีขึ้น​ แต่ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนฉีดวัคซีน​ เพราะยังมีบางส่วนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนและขณะนี้ไทยมีวัคซีนอย่างเพียงพอ​ จึงขออย่ารออย่าเลือก​ เพราะผ่านการอนุมัติของ​ WHO และ​ ​อย.ไทยแล้ว​ ซึ่งอย่างน้อยก็สามารถลดความรุนแรงของโรคได้​ จึงขอเตือนไว้​ โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้จังหวัดเตรียมชุดเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่​ จึงขอฝากไว้เพื่อป้องกันการระบาดระลอกใหม่​ วันนี้ความเข้มแข็งของประเทศไทยคือความหลากหลายทางชีวภาพ​ แต่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการท่องเที่ยว​ ไม่ว่าจะเป็น นวัตกรรมใหม่ๆ หยิบจับมาใช้ให้เป็นประโยชน์และสร้างมูลค่า​ นั่นคือความเป็นอัตลักษณ์​ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม​ เราต้องสร้างความสงบเรียบร้อย​ ความมีเสถียรภาพ​ สร้างความสามัคคี​ ไม่แบ่งแยก​ นั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการ​ เพื่อที่จะได้ทำงานอย่างอื่นได้อย่างเต็มที่​ นายกฯ​ ขอ ประชาชน อย่ารอเลือกยี่ห้อวัคซีน ​ลั่น ลดความรุนแรง​โรคได้​หมด

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวว่า  พยายามอีกหนึ่งสิ่งที่รัฐบาลได้พยายามทำอยู่ คือ​ การสร้างความมั่นคง​ มั่งคั่ง​ ยั่งยืน​ ให้กับเศรษฐกิจฐานราก​ โดยรัฐ​ ธุรกิจ​ เอกชน​ ประชาชน​ ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน​บนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ​ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้และการปรับกระบวนการคิด​ เพื่อให้ทันโลก​ และต้องพัฒนาให้มากที่สุด​ โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงหากเราไม่ปรับตัวเราจะอยู่ไม่ได้ในอนาคต​ เพราะทุกอย่างเข้ามาด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล​ ซึ่งมีทั้งวิกฤตและโอกาส​ รัฐบาลได้พยายามดูอยู่แล้วแต่ยอมรับว่ารายได้ของเรามีจำกัด​ โดยเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19​ และยืนยัน​ ว่า​ รัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง​ และอยากบอกว่านายกรัฐมนตรีเป็นห่วงทุกคน

 

นายกรัฐมนตรี​ ยังกล่าวถึงการท่องเที่ยวในชุมชน​ โดยให้ลองพิมคำว่า​ "ชิลไปไหน Chillpainai" ใน YouTube​ ก็จะเห็นความสวยงามแต่ละจังหวัด​ ซึ่งทำให้รู้สึกรักประเทศไทยขึ้นมาอีกเยอะเลย โดยตนจะนำไปเปิดใน​ที่ประช​ุม ครม.​เพราะตนไม่ค่อยได้ไปเที่ยว​ไหนกว่า​ 10 ปี​ แล้ว​ ตั้งแต่ทำงานเป็นทหาร​ ทำงานอยู่​บนถนน​ บนเครื่องบิน​ ซึ่งหากเราไม่รู้จักประเทศไทยเราจะไม่สามารถรวมกันได้​ ซึ่งหากทำได้ก็จะสามารถพัฒนาการท่องเที่ยว​ในชุมชน​ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น​ ซึ่งผู้ที่มารับรางวัลในวันนี้ก็จะได้มีมาตรฐานเดียวกัน​ และพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชน​ให้ดียิ่งขึ้น​ ถึงแม้รัฐบาลจะมุ่งหวังในเรื่องของการลงทุนแต่ก็ต้องคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย นายกฯ​ ขอ ประชาชน อย่ารอเลือกยี่ห้อวัคซีน ​ลั่น ลดความรุนแรง​โรคได้​หมด

ขณะที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้มีการสั่งการให้กับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ​ในการเยียวยา​ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการขุดลอกคลองระบายน้ำ​ ซึ่งทุกอย่างต้องร่วมมือร่วมใจกันพร้อมหาวิธีการแก้ไข​ ช่วยเหลือและแบ่งปันกัน​ พร้อมฝากในเรื่องของการศึกษา​ โดยให้ดูศักยภาพของลูกหลานว่ามีความถนัดด้านใด​ ก็ขอให้ส่งเสริมไปตามนั้น​ เพราะกลัวจบแล้วไม่มีงานทำ​ จึงอยากให้เรียนตามความต้องการของประเทศ และเรียนให้ตรงกับพรสวรรค์ของตนเอง​ เพราะฉะนั้นการตั้งชุมชนเหล่านี้ขึ้นมาจะเชื่อมโยงกับบวร​ โดยกำชับให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด​ ไปดำเนินการในเรื่องนี้​

 

อย่างไรก็ตาม​ นายกรัฐมนตรี​ ยังระบุว่า หากเปรียบเทียบแล้วคิดว่าประเทศไทยยังดีกว่าหลายประเทศ แต่เราต้องดีมากกว่านี้ ต้องยิ้มปากกว้าง มีความสุขอย่างพอเพียง การมีเงินหรือคนรวย​ ใช่ว่าจะสบาย​ ​เพราะต้องคิดตลอดว่าจะหาเงินอย่างไรเพื่อความสุข​สบาย​ มีมากใช้​มาก​ มีน้อยใช้น้อย​ พร้อมอยากให้ผู้ปกครองสอนเด็กตั้งแต่เล็กๆให้รู้สึกว่าโตขึ้นมาแล้วจะอยู่กันอย่างไร​ ให้เข้าใจพ่อแม่ว่ามีกำลังเท่าไหร่​ รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาแต่ก็ต้องใช้ความพยายามพอสมควร ซึ่งไม่ว่าคนรวยคนจนก็มีทุกข์เหมือนกัน แต่อยู่ที่ใจเรา​ คนเรามี​ 70  กว่าล้านคน​ เคยชินการอยู่แบบเดิมๆ​ บางทีก็เปลี่ยนแปลงกันยาก​ แต่ทุกต้องเปลี่ยนที่ใจ​ หากพร้อมที่จะเปลี่ยน ก็จะปรับได้หมด เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว

logoline