ล่าสุด วันนี้( 21 พ.ย.) จากกรณีคนร้าย ขี่จักรยานยนต์บุกเดี่ยวใช้อาวุธมีด ชิงเงินสด 5,800 บาท จากร้านสะดวกซื้อ ในเขตพื้นที่ สน.แสมดำ เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (รอง ผบก.น.9) พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี ผกก.สน.แสมดำ พ.ต.ท.ธนูพล จินตาคม รอง ผกก.สส.สน.แสมดำ พ.ต.ท.สรายุทธ ปัญญาศรีวิชัย สว.สส.และฝ่ายสืบสวน
ร่วมกันแถลงการจับกุมคนร้าย คือ นายภูหลวง ชีวะกุล หรือ เอ็ดดี้ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหา ได้ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 2 กว 2268 กรุงเทพฯ มีดทำครัวยาว 1 ฟุต เงินสด 140 บาท พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่ ระหว่างก่อเหตุ
จุดเกิดเหตุ คือ เซเว่น อีเลฟเว่น สาขา อมรชัย 4 ปากซอย พระราม 2 ซอย 75 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน คนร้ายได้เงินสดไปเพียง 5,800 บาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น. คืนวานนี้(20 พ.ย.) ก่อนจะมีการรายงานให้ ร.ต.อ.อภิชัย สีสังข์ รอง สว.สน.แสมดำ รับแจ้งข้อมูลก่อนประสานกับฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจสอบพื้นที่
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.แขไข โนนคำ อายุ 42 ปี ผู้จัดการ และน.ส.พันทอง มหาชัย อายุ 41 ปี พนักงานขาย ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนกว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ เหน็บมีดทำครัวไว้ด้านหลัง เดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ กดคอ น.ส.พันทอง ให้ก้มมองพื้น แล้วเอามีดจ่อที่คอ บังคับให้เปิดลิ้นชักใส่เงิน แต่ น.ส.พันทอง บอกว่า เปิดไม่ได้ คนร้ายจึงหยิบสินค้ามาให้ยิงบาร์โค๊ด เพื่อให้ลิ้นชักเก็บเงินเปิด แต่ น.ส.พันทอง ไม่ยอมทำ จึงถูกขู่ว่าจะฟันให้ตาย
น.ส.ไขแข เกรงว่าคนร้ายจะทำจริง จึงบอกให้คนร้ายหยิบเงินใต้ลิ้นชักที่เตรียมจะเก็บใส่ลิ้น ชักช่วงเปลี่ยนเวร ทั้งหมด 5,800 บาท คนร้ายหยิบเงินทั้งหมดใส่กระเป๋ากางเกงด้านซ้าย ก่อนจะรีบวิ่งไปขี่ รถจักรยานยนต์ ที่จอดห่างออกไปจากร้านประมาณ 15 เมตร ซึ่ง น.ส.พันทอง ได้วิ่งตามคนร้ายไปเพื่อดูเลขทะเบียนรถ แต่ คนร้ายเห็น จึงทำท่าจะลงรถเอามีดมาไล่ฟัน น.ส.พันทอง จึงวิ่งหลบหนี แต่คนร้ายสตาร์ทรถอยู่หลายครั้ง จนทำให้น.ส.พันทอง จำเลขทะเบียนได้อย่างแม่นยำ
เมื่อนำ หมายเลขทะเบียนรถ ไปตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า ผู้ครอบครองคือ บิดาของนายภูหลวง จึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา
จากการสอบสวน นายภูหลวง รับสารภาพว่า ในอดีตหลายปีที่ผ่านมา ครอบครัว เปิดอู่ซ่อมรถยนต์ มีลูกค้าขาประจำมากมาย ค่อนข้างมีฐานะ ต่อมา เจ้าของที่ขึ้นค่าเช่าจนสู้ราคาไม่ไหว ต้องย้ายไปเปิดอู่ในสถานที่แห่งใหม่ ทำให้ลูกค้าน้อยจนต้องเลิกกิจการ จึงไปสมัครเป็นรปภ.ประจำ โรงเรียนประถมใกล้บ้าน แต่ก็ทะเลาะกับเจ้าของบริษัทรปภ. กระทั่งตกงานอยู่หลายเดือน ต่อมา ไปสมัครเป็นเชฟทำอาหารอยู่ที่ห้างเซ็นทรัล พระราม 2 ทำอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ก็ทะเลาะกับผู้จัดการร้าน จนต้องออกจากงานอีกครั้ง จนมาเปิดร้านขายขนมปังอยู่ย่านเคหะท่าข้าม โดยกู้ยืมเงินมาลงทุน แต่ขายไม่ดี จึงเริ่มเล่นบาคาร่า ออนไลน์ หวังจะได้เงินเป็นก้อนมาลงทุน ยิ่งทำให้เงินทุนหมด และเพื่อนๆ หนีหาย จึงคิดว่าจะหาเงินมาใช้หนี้และลงทุนบางส่วน
ก่อนก่อเหตุ หลังจากปิดร้าน ได้ขี่ รถจักรยานยนต์ วนไปดูที่ร้านสะดวกซื้อหลายสาขา กระทั่งพบ ร้านที่มีพนักงานผู้หญิง 2 คน และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการน้อย จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ หลังได้เงินแล้วขี่รถหลบหนีไปทางถนนบางกระดี่ ลัดไปออกทางวัดพันท้ายนรสิงห์ เมื่อถึงบ้านจอดรถไว้แล้วเหมารถแท็กซี่ออกไปหาเพื่อน เอาเงินไปใช้หนี้ ซื้อของกินจนเงินเหลือแค่ 140 บาท เมื่อย้อนกลับมาบ้าน จึงโดนจับกุมดังกล่าว
นายภูหลวง เล่าประวัติตัวเองให้ฟังว่า ช่วงอายุ 14 ร่วมกับเพื่อนปล้นทรัพย์ชาวบ้าน ได้เงินพันกว่าบาท แต่มาถูกตำรวจสน.ท่าข้ามจับได้ ศาลเยาวชนสั่งคุมความประพฤติ 1 ปี ต่อมาอายุ 15 ปี เข้าไปจี้ร้านสะดวกซื้อ โดยหยิบสินค้าเป็นเหล้ากับบุหรี่ โดยใช้มีดขู่พนักงาน ในท้องที่สน.ท่าข้าม ถูกจับได้ ศาลเยาวชนสั่งคุมความประพฤติ 6 เดือน ต่อมาอายุ18ปี ค้ายาบ้า ถูกจับในท้องที่สน.ท่าข้าม คิดคุกอยู่3ปี6เดือน แล้วก็คดีล่าสุดที่ผ่านมา ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธมีด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป