"เมทาเวิร์ส" จักรวาลใหม่ ในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี

ถอดอนาคตคอนเทนต์วงการบันเทิงเกาหลี ในมุมมองของ “ซูมาน อี” (Soo-Man Lee) แห่ง เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ (SM Entertainment) ที่ได้บรรยายหัวข้อ “NFT และเศรษฐกิจ Prosumer ที่เปิดขั้นต่อไปของวงการบันเทิง” ในงาน‘Breakpoint 2021’ ที่จัดขึ้นในเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยมูลนิธิ Solana แพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะ

 

เกาหลีจะกลายเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์เมทาเวิร์ส และ NFT

ซูมาน อี ได้กล่าวว่า ในฐานะที่เกาหลีเป็นประเทศแห่งขุมพลังด้านวัฒนธรรมระดับโลกและเป็นผู้นำหน้า (Early Adopter) ในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเมทาเวิร์ส (metaverse) และ AI

 

แม้ขนาดของตลาดจะค่อนข้างเล็ก เนื่องจากจำนวนประชากรของเกาหลี แต่ประชากรกลุ่มนี้สามารถเติบโตในโลกเสมือนจริงผ่านอวตาร และขยายตลาดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการสร้างจักรวาลใหม่ผ่านโลกเสมือน และเมทาเวิร์ส และด้วยการขยายตลาด

 

"ผมคาดว่า ประเทศเกาหลีจะกลายเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์เมทาเวิร์ส และ NFT (Non-Fungible Token, สินทรัพย์ดิจิทัล)”

 

 

 

เมทาเวิร์ส คือ จักรวาลใหม่ สิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกจริงสามารถเป็นไปได้

ซูมาน อี ได้ให้นิยามโลกแห่งเมทาเวิร์สไว้ ดังนี้

เมทาเวิร์ส ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งหนึ่งที่มีองค์ประกอบเป็นความเสมือนเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความรู้สึกอันแท้จริงของเรา เมทาเวิร์สเหนือไปกว่าการสะท้อนความเป็นจริงที่เราอาศัยอยู่

 

เช่นเดียวกับ “การจำลอง” ที่เราสามารถทดสอบ และผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เราวางแผนเอาไว้ในโลกเสมือนจริงได้ ด้วยการทดลองไอเดียใหม่ ๆ และทำการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับการที่เราทำจริง ตลอดจนผ่านกระบวนการทดสอบและความผิดพลาดล่วงหน้านั้น เราจะสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ได้อย่างมีรายละเอียดและความแม่นยำมากขึ้น ในความเร็วที่เร็วขึ้น

 

แม้แต่ใน “ชีวิตจริง” เราสามารถประยุกต์ ใช้งาน และใช้ประโยชน์สิ่งนี้ในความเป็นจริงเพื่อเข้าถึง ชีวิตจริงที่ดีขึ้นได้

 

 

"หากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้รับการยืนยันในโลกเสมือนจริงที่ซึ่ง  การจำลอง เป็นไปได้นั้น สามารถนำมาใช้กับสินค้า ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ อีกมากมายที่เราใช้ในความเป็นจริงได้

 

เราก็จะพบกับจุดเปลี่ยนในอนาคตของเรา ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โลกใหม่จะถูกเปิด โดยในโลกของหุ่นยนต์ และเมทาเวิร์ส ผมคิดเชิงบวกว่า มนุษย์จะยังคงเติบโตทางวัตถุ วัฒนธรรมและจิตใจ และมีชีวิตที่ดีขึ้นครับ”

 

สังคมดิจิทัล สู่โลกของอวตาร

ด้วยสังคมดิจิทัลแบบ ไม่เผชิญหน้า (non-face-to-face) ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความต้องการโอกาสทางธุรกิจในอนาคตในความเป็นจริงเสมือน (virtual reality) เมทาเวิร์ส และ NFT กำลังเติบโตอย่างน่าทึ่ง

 

"โลกในอนาคตที่ผมและ SM นึกถึงคือ โลกของหุ่นยนต์และคนดัง นอกจากนี้ ผมหวังว่าเราจะเข้าสู่โลกของอวาตาร์กันก่อน และเราได้เตรียมการสำหรับยุคของคอนเทนต์ในอนาคตมาหลายปีแล้วครับ”

 

 

ทั้งนี้เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2020 SM ได้เปิดตัวเกิร์ลกรุ๊ปเมทาเวิร์สที่ชื่อว่า aespa (เอสป้า) เกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่มาพร้อมโลกทัศน์เมทาเวิร์ส ที่มีสมาชิกร่วมกับอวตารที่อยู่ในโลกเสมือนจริง ซึ่งอวตาถูกสร้างขึ้นมาจากพวกเธอเอง

 

อีกทั้งยังได้รับความสนใจอย่างมากจากทั่วโลกตั้งแต่เดบิวต์ เนื่องด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ aespa คอนเซปต์ของเมทาเวิร์สจึงได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมบันเทิง เช่นเดียวกับเพลงเมกะฮิตของวง ‘Next Level’ หลายคนสนใจว่า “ขั้นต่อไป” ของอุตสาหกรรมบันเทิงจะเป็นอย่างไร

 

เมทาเวิร์ส กับ อุตสาหกรรมบันเทิง

ซูมาน อี ได้เปิดเผยแผนที่จะนำยุคคอนเทนต์ในอนาคตผ่าน SMCU ซึ่งเป็นโลกทัศน์เสมือนจริงขนาดใหญ่รวมกับเมทาเวิร์ส

 

SMCU หรือ SM Culture Universe คือ โลกความบันเทิงในอนาคตอันไร้ซึ่งขอบเขตระหว่างความเป็นจริงและความเสมือนจริง ที่เชื่อมต่อโลกผ่านวัฒนธรรม เป็นคอนเทนต์เมทาเวิร์สในอนาคตที่ SM ปรารถนาจะบรรลุผล และสามารถมองได้ว่าเป็นรูปแบบใหม่อย่างสิ้นเชิงของ IP ทางวัฒนธรรมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในแนวดนตรีที่มีอยู่ โดยผ่าน SMCU นี้

 

 

SM วางแผนที่จะให้ความสำคัญกับการใช้รูปแบบต่าง ๆ ของ IP อิสระ อาทิ ศิลปิน ดนตรี มิวสิกวิดีโอ และการแสดง เพื่อเชื่อมต่อและขยายเข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง IP คอนเทนต์เมทาเวิร์สโดยตรง

 

“ยกตัวอย่าง ในวิดีโอ SMCU ล่าสุด พวกเราได้แนะนำประเภทคอนเทนต์คลิปแบบผสมที่เรียกว่า ‘CAWMAN’ ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ผสมผสานมาจาก

C - Cartoon 

A - Animation 

W - Web-toon

M - Motion graphic

A - Avatar

N - Novel

 

พวกเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์คอนเทนต์ในอนาคตใหม่อย่างสิ้นเชิงด้วย CAWMAN เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม TikTok

 

ช่วงนี้ เราได้เห็นว่าคนหนุ่มสาวรุ่น M, Z คุ้นเคยและชื่นชอบคอนเทนต์ที่สั้นกว่าอย่างไร ในทำนองเดียวกันก็จะเข้าใจ CAWMAN ได้ง่ายขึ้นเพียงแค่มองว่า มันเป็นเทคนิคการถ่ายทอดวิดีโอแบบใหม่ที่ผสมแนวเพลงต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อดำเนินเรื่องต่อ”

 

 

 “เมื่อความสำคัญของคอนเทนต์เพิ่มขึ้น Prosumer (ผู้บริโภคทีมีความเป็นมืออาชีพ) ทั่วโลกจะผลิตคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นใหม่และไปถึงจุดสูงสุดของเมทาเวิร์ส เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของ Prosumer เหล่านี้ ทาง SM ได้เริ่มโปรเจกต์ 'PINK BLOOD' ที่หมายถึงแฟน ๆ ของเราที่รักเนื้อหาของเราต่อไป ฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “เลือดสีชมพู” ในเส้นเลือดของพวกเขา ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของ SM

 

เมทาเวิร์สจะมอบพื้นที่ที่ Prosumer สามารถเล่นและสร้าง เพื่อไปถึงขั้นสูงสุดของการสร้างสรรค์ที่มนุษย์ได้รับอนุญาตจากพระเจ้าครับ

 

เมทาเวิร์สนี้ต้องเป็นสถานที่สำหรับการสร้างสรรค์ที่ Prosumer สามารถเล่น เพลิดเพลิน และสร้างได้อย่างอิสระ

 

Killer content ที่ SM สร้างและเป็นเจ้าของนั้น จะกลายเป็นคอนเทนต์ที่สามารถสร้างใหม่ได้ (Re-Creatable content) อย่างนับไม่ถ้วนโดย Prosumer และผู้ผลิตรายอื่น ๆ ซึ่งพวกเราจะแบ่งปันและสามารถนำไปทำเป็นคอนเทนต์สร้างใหม่ เพิ่มเติมได้”

 

สร้างคอนเทนต์บนเทคโนโลยีบล็อกเชน

 ในอนาคตคอนเทนต์บันเทิงจะสามารถสร้างมูลค่าได้มหาศาล และมีมูลค่าไม่สิ้นสุดบนเทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงการเชื่อมโยงผู้บริโภคจากทั่วโลกได้โดยง่าย

 

“โลกทัศน์เมทาเวิร์สร่วมด้วยคอนเทนต์ที่ต่างมีเรื่องราว และคอนเทนต์ทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นโลกทัศน์เมทาเวิร์สนั้น ทั้งหมดจะเชื่อมต่อกันผ่าน NFT เราจำเป็นต้องบรรลุรูปแบบที่ Prosumer นับร้อยนับพันคนจากทั่วโลกสามารถร่วมมือกัน เพื่อขยายความคิดสร้างสรรค์และสร้างคอนเทนต์ NFT เดียว และได้ส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์เป็นการตอบแทน

 

 

คอนเทนต์ NFT ที่สร้างขึ้นในลักษณะนี้ จะมี “มูลค่าตลอดชีพ” มันจะไม่ใช่คอนเทนต์ที่เสื่อมสลายหายไปหลังจากบริโภคเพียงครั้งเดียว แต่เป็นคอนเทนต์ที่มีมูลค่าตลอดชีพและสามารถเป็นเจ้าของได้โดย Prosumer ผู้ผลิต และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ

 

NFT เป็นบล็อกเชน (blockchain) ที่ช่วยให้คอนเทนต์มีมูลค่าตลอดชีพ  คอนเทนต์เมทาเวิร์สจะได้รับการคุ้มครองและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ผ่านบล็อกเชน อีกทั้งยังสามารถติดตามความเป็นเจ้าของได้ เช่นเดียวกับของสะสมที่เป็นภาพวาด

 

มูลค่าของคอนเทนต์เมทาเวิร์สอาจมีการกำหนดราคาด้วยเหรียญ หรืออย่างที่ผมจะพูดถึงในภายหลัง ยุคใหม่จะเปิดขึ้น ซึ่งมันสามารถแลกเปลี่ยนได้เหมือนสกุลเงิน หรือผ่านระบบการแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดิม ธุรกรรมทางคอนเทนต์ผ่าน NFT จะมีการใช้งานมากขึ้น เหมือนกับการซื้อขาย Cryptocurrency (สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง) ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขาย ซึ่งแพลตฟอร์มการซื้อขายสำหรับ NFT ก็จะมีความสำคัญเช่นกัน

 

นอกจากนี้ เราจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ Prosumer สามารถมีส่วนร่วมได้โดยไม่ต้องทำการค้าหรือชำระเงิน ถ้าไม่มี Prosumer ก็ไม่มีประโยชน์อะไร หาก NFT ได้รับมูลค่าเป็นสกุลเงิน แทนที่จะเป็นผลงานทางศิลปะ"

 

"บทบาทของแพลตฟอร์มการซื้อขายนี้ (NFT) จะมีความสำคัญมากขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สร้างคอนเทนต์และใช้ประโยชน์เมทาเวิร์ส เพื่อคิดและสร้างอนาคต”

 

 

ขอบคุณภาพจาก @aespa_official