เป็นที่จับตามานาน สำหรับเจ้าวัคซีนที่ชื่อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) หรือชื่อทางการวิจัยคือ JNJ-78436735 หรือ Ad 26.COV2.S ผลิตโดย บริษัท Johnson & Johnson (J&J) สหรัฐอเมริกา เป็นวัคซีน ที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ หรือ เเบบเวคเตอร์
โดยใช้ไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ แต่ไม่ทำให้ป่วย ไม่สามารถแบ่งตัวได้อีก มาตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นพาหะ โดยฝากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เข้าไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่เลียนแบบให้ใกล้เคียงกับการติดเชื้อโดยธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดในกลุ่มคนอายุ 18 ปีขึ้นไป และเป็นวัคซีนที่ฉีดเพียง 1 โดสเท่านั้น
วัคซีนตัวนี้ทำงานอย่างไร?
วัคซีน จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทมีชื่อว่า Janssen Pharmaceutical Companies บริษัทลูกของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยวัคซีนมีชื่อว่า JNJ-78436735 หรือ Ad26.COV2.S เป็นวัคซีนประเภท adenovirus-based หรือ วัคซีนที่ใช้ยีนของไวรัสก่อโรคใส่เข้าไปในอะดีโนไวรัส AD26 และฉีดเข้าร่างกายเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านไวรัสโควิด-19
องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อ 12 มีนาคม 2564 ก่อน อย.ไทยขึ้นทะเบียน 25 มี.ค. 2564 จัดการนำเข้าโดย แจนเซ่น-ซีแลก จำกัด แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีกำหนดนำวัคซีนตัวนี้เข้ามาในประเทศ ในส่วนของสนนราคาอยู่ที่ประมาณโดสละ 10 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือเทียบเงินไทยก็ประมาณ 314.22 บาท
นิยามสุดปัง "ฉีดเข็มเดียวอยู่"
วัคซีน จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ได้รับการรับรองจากเอฟดีเอสหรัฐ เป็นวัคซีนที่ฉีดเพียงเข็มเดียวก็เพียงพอต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน ต่างจากวัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ที่ต้องฉีด 2 เข็มจึงจะครบโดส การฉีดเพียงเข็มเดียวนั้นถูกมองว่ามีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากการฉีด 2 โดส อาจมีปัญหาเรื่องการฉีดไม่ครบโดส หรือมาไม่ตรงตามนัดได้
อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เอง ก็อยู่ระหว่างการทดสอบการฉีดวัคซีนแบบ 2 โดส เพื่อดูเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพเพิ่มเติมด้วย
ข้อดีในการเก็บรักษาและขนส่ง
วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน สามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็นปกติได้เป็นเวลานานถึง 3 เดือน ทำให้สามารถเข้าถึงคลินิกขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลได้ง่ายขึ้น
ในปัจุบันนี้ วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า ได้ถูกนำมาใช้ใช้ในสหรัฐฯ , สหภาพยุโรป, แคนาดา, สวิตเซอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์, ลิตเตนสไตน์, บาห์เรน เป็นต้น
จากรายงานหากดูย้อนหลัง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางเดนมาร์ก ได้เคยประกาศยกเลิกใช้เนื่องจากจากภาวะลิ่มเลือด และก่อนหน้านี้ทางยุโรปและสหรัฐฯ เคยระงับการใช้ ก่อนที่จะกลับมาให้ฉีดให้ประชาชนอีกครั้งเมื่อไม่นาน
สำหรับประเทศไทย เพิ่งมีกระแสร้อนๆ หลังมีคนไทยจัดซื้อเอง และแอบนำเข้ามาให้คุณหมอไทยในคลินิกจัดการฉีดให้ กลายเป็นข่าวร้อนๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนการนำเข้าอย่างถูกต้อง..ให้ร้องเพลงรอไปก่อน!!