เปิดข้อมูลความแตกต่าง "โมลนูพิราเวียร์-แพกซ์โลวิด" ยารักษาโควิดชนิดเม็ด
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
โมลนูพิราเวียร์ และ แพกซ์โลวิด ยารักษา "โควิด-19" ชนิดเม็ด ถือเป็นความหวังในการยับยั้งการแพร่ระบาดมาตลอด 2 ปี โดยยาทั้งสองตัวคาดว่าจะสามารถนำมาใช้อย่างช้าในต้นปีหน้า
ตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขณะเดียวกันก็มีความพยายามพัฒนาวัคซีน เพื่อดูแลรักษาป้องกันโควิด-19 กระทั่งล่าสุดมีการพัฒนายารักษาโควิด-19 ชนิดรับประทาน โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) และ แพกซ์โลวิด (Paxilovid) ซึ่งทั้ง 2 ชนิดออกฤทธิ์แตกต่างกัน
ล่าสุด นพ.อรรถสิทธ์ ศรีสุบัติ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ แถลงว่า โมลนูพิราเวียร์ และ ยาแพกซ์โลวิด ทั้งสองชนิดเป็นยาต้านไวรัส เพื่อไม่ให้เพิ่มจำนวนไวรัสในร่างกาย ซึ่งตามผลวิจัยพบว่ายาแพกซ์โลวิดต้องใช้ควบคู่กับยาลิทัวนาเวีย
“ขณะเดียวกันหากเชื้อโควิดผ่านการเพิ่มจำนวนโปรตีนเพิ่มมากขึ้น ยาโมลนูพิราเวียร์จะเป็นตัวช่วยยังยั้ง จะเห็นว่ายาทั้งสองตัวนี้จะออกฤทธิ์กันคนละที่ ”
ประสิทธิภาพ ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir)
- ยาตัวแรกที่จะใช้รักษาเฉพาะโรคโควิด เป็นยาเม็ดชนิดรับประทานออกฤทธิ์ต้านไวรัส พัฒนาขึ้นเพื่อใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่
- จากการศึกษาพบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสโคโรนาหลายชนิด เช่น ซาร์ เมอร์ส และโควิด 19
- ข้อมูลการศึกษาวิจัยในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ 385 คน เป็นเวลา 5 วัน ลดความเสี่ยงนอน รพ. 50 % และไม่มีผู้เสียชีวิต
- ยาโมลูพิราเวียร์เม็ดละ 200 มิลลิกรัม รับประทาน 4 เม็ดต่อมื้อ จำนวน 2 มื้อ รวม 800 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 วัน
- รับยาโมลนูพิราเวียร์นอน รพ. 7.3% ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย ถือว่าลดการนอนรพ.และเสียชีวิตลงประมาณ 50%
ไทม์ไลน์การสั่งซื้อ ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir)
- ก.ค.-ส.ค. 64 กรมการแพทย์ หารือกับบริษัท เมอร์ค ถึงข้อมูลยาและการวิจัย
- ส.ค.-ก.ย. 64 กรมการแพทย์ หารือกับบริษัท เมอร์ค การจัดหาและการจัดซื้อ
- ก.ย.-ต.ค. 64 กรมการแพทย์ หารือกับบริษัท เมอร์ค สัญญาซื้อขาย
- 12 ต.ค. 64 เสนอแผนการจัดหา ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ต่อ ศปก.ศบค.
- 14 ต.ค. 64 เสนอแผนต่อ ศบค.
- 12-22 ต.ค. 64 หารืออัยการสูงสุด
- พ.ย. 64 เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติงบประมาณและสั่งซื้อ ในหว่างนี้ประมาณการว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) จะขึ้นทะเบียนใน อย.สหรัฐ (FDA)
- พ.ย. 64 - ต้นปี 2565 ประมาณการขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และใช้ในประเทศไทย
ประสิทธิภาพยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid)
- “แพกซ์โลวิด” ยารักษาโควิด 19 ตัวที่ 2 ของโลก บริษัท ไฟเซอร์ อิงค์ แถลงผลการทดลองว่า “มีประสิทธิผลสูงถึง 89%” ในการลดการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิต
- ยาชนิดรับประทาน วันละ 2 ครั้ง จำนวน 5 วัน
- ยาแพกซ์โลวิด จะไปยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์โปรตีเอส ทำให้เพิ่มจำนวนโปรตีนไม่ได้
- ได้รับยาแพกซ์โลวิดและยาริโทนาเวียร์ นอนโรงพยาบาล 0.8% ไม่มีผู้เสียชีวิต ถือว่าลดการนอน รพ. และเสียชีวิต 89%
ไทม์ไลน์ของ ยาแพกซ์โลวิด (Paxilovid)
- ส.ค. 64 กรมการแพทย์ได้ หารือกับ บริษัทไฟเซอร์ ถึงข้อมูลยาและการวิจัยพัฒนา
- ส.ค.-ก.ย. 64 บริษัทไฟเซอร์ และ กรมการแพทย์ ลงนาม CDA ซึ่งเป็นการเซ็นเอกสารรักษาความลับไม่เปิดเผยข้อมูล
- ต.ค. 64 บริษัทไฟเซอร์ และ กรมการแพทย์ หารือผลความก้าวหน้าเรื่องผลงานวิจัย ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3
- 12 พ.ย.64 หารือความเป็นไปได้ในการจัดหายา ขณะเดียวกันคาดว่าไฟเซอร์จะดำเนินการคู่ขนานในการขอขึ้นทะเบียนกับ อย.สหรัฐ (FDA)