svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ตร.รวบสาวรุ่นลูกแชทเฟสตีสนิทลุง63ลวงหมั้นหมายสูญกว่า10ล้านบาท

07 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

 ตร.บุรีรัมย์ แถลงรวบสาวรุ่นลูกชาวสุโขทัย แชทเฟสบุ๊กตีสนิทลุงวัย61ชาวบุรีรัมย์ที่ยังไม่มีครอบครัว แล้วออกอุบายขอยืมเงินหลายครั้งอ้างเดือดร้อน ก่อนลวงให้หมั้นหมายเพื่อให้เหยื่อตายใจ แล้วหลอกขายที่ดินสูญเงินกว่า10ล้าน เตรียมออกหมายผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก

7 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.นิรันดร์ แก้วอิน รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์,พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผกก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.เจตน์สฤษฏิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย ร่วมแถลงข่าวการจับกุม น.ส.ชนกนันท์ หรือนัดดา ตุ้มเขียว อายุ27ปี ชาว ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่252/2564ลงวันที่6พ.ย.64 ในข้อหา“ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคลใดบุคคลหนึ่งและร่วมกันฉ้อโกง” เหตุเกิดที่บ้านเลขที่103หมู่ที่14ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ต่อเนื่องกับที่บริเวณ สำนักงานที่ดิน สาขาประโคนชัย อ.ประโคนชัย ระหว่างต้นเดือน มิถุนายน2564ถึงวันที่28ตุลาคม2564เวลาประมาณ10.30น. ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ตร.รวบสาวรุ่นลูกแชทเฟสตีสนิทลุง63ลวงหมั้นหมายสูญกว่า10ล้านบาท

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่2พ.ย.64เวลาประมาณ14.00น. นายนรศักดิ์ ศรีพิรุณทิพย์ อายุ63ปี ชาว ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่า เมื่อประมาณต้นเดือน มิ.ย.64ได้รู้จักกับ น.ส.นัดดา พวงเพชร (ทราบจากพนักงานสอบสวนภายหลังว่าผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อ น.ส.ชนกนันท์ ตุ้มเขียว อายุ27ปี เป็นชาว ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย) ผ่านแอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก ซึ่งในระหว่างที่ติดต่อพูดคุยกับได้โอนเงินตามที่ น.ส.นัดดา ร้องขอ โดยอ้างว่า มารดาเดือดร้อนต้องการใช้เงิน โดยได้โอนเข้าบัญชี ชื่อ นางเฉลา (ขอสงวนนามสกุล) จำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ210,700บาท น.ส.นัดดา ก็ได้มีการหมั้นหมายกับ นายนรศักดิ์ ซึ่งก็มีการหมั้นจริงแต่น่าจะเป็นการสร้างตัวละครญาติพี่น้องเพื่อให้เหยื่อตายใจ หลังจากหมั้นหมายแล้วนายนรศักดิ์ จึงยกเงินจำนวน210,700บาทให้ น.ส.นัดดา ถือว่าเป็นค่าสินสอดทองหมั้นหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เจอกันบ้างติดต่อผ่านเฟสบุ๊กบ้าง

จนกระทั่งเมื่อวันที่5ส.ค.64นายนรศักดิ์ ได้ตรวจพบว่าระหว่างวันที่19-30มิ.ย.64ยอดเงินในบัญชีธนาคารกสิกรไทยของตนเอง จำนวน2,641,000บาท ได้ถูกโอนผ่านแอบพลิเคชั่นK PLUSไปยังชื่อบัญชี นายเกียรติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) จำนวน7ครั้ง เป็นเงิน1,736,000บาท และโอนไปยังบัญชี น.ส.ปรียดา (ขอสงวนนามสกุล) อีก3ครั้ง เป็นเงิน905,000บาท

ตร.รวบสาวรุ่นลูกแชทเฟสตีสนิทลุง63ลวงหมั้นหมายสูญกว่า10ล้านบาท

นายนรศักดิ์ จึงจะไปแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนหาตัวคนร้าย แต่ระหว่างนั้น น.ส.นัดดา ได้ติดต่อและยอมรับว่า เป็นคนโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อที่ดินกับต้นไม้เอง พร้อมขอร้องไม่ให้นายนรศักดิ์ ไปแจ้งความ โดยพูดจาหลอกล่อว่าในเมื่อจะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปแจ้งความ ส่วนเงินที่เอาไปนั้น เมื่อขายที่ดินได้แล้วจะคืนให้ กระทั่งต่อมา น.ส.นัดดา ได้ออกอุบายว่า อยากเปิดโรงงานและจดทะเบียนการค้าเพื่อทำธุรกิจ จึงขอให้นายนรศักดิ์ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอีก

แต่นายนรศักดิ์ บอกว่าไม่มีเงินสดจึงยื่นข้อเสนอให้ น.ส.นัดดา ดำเนินการนำที่ดินของตน เนื้อที่9ไร่3งาน50ตารางวา ไปประกาศขายในราคาไม่ต่ำกว่าไร่ล่ะ1,700,000บาท โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องขายได้ก่อน นายนรศักดิ์ จึงจะแบ่งเงินช่วยค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้ ต่อมาเมื่อวันที่28ต.ค.64เวลาประมาณ10.30น. หลังจาก น.ส.นัดดา อ้างว่า สามารถขายที่ดินแปลงดังกล่าวได้แล้วในราคา16,700,000บาท นายนรศักดิ์ จึงเดินทางไปทำสัญญาโอนขายที่ดินโฉนดแปลงดังกล่าว ให้กับนายพุทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ซื้อ ที่สำนักงานที่ดิน สาขาประโคนชัย ซึ่งต่อมาเมื่อ น.ส.นัดดา ได้บอกกับนายนรศักดิ์ ว่า ผู้ซื้อที่ดินได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ให้กับนายนรศักดิ์ ครบตามจำนวนแล้ว นายนรศักดิ์ จึงหลงเชื่อและยินยอมลงชื่อในสัญญาโอนขายที่ดินดังกล่าว

 แต่ต่อมานายนรศักดิ์ ทราบภายหลังจาก นายพุทธิชัย ผู้ซื้อว่า น.ส.นัดดา กับพวกได้เสนอขายที่ดินให้ในราคาเพียง7,500,000บาท (ซึ่งตรงกันกับสัญญาซื้อขายที่ดินที่ได้ทำไว้ที่สำนักงานที่ดิน) และในขณะที่ทำสัญญาโอนขายที่ดิน นายพุทธิชัย ก็ยืนยันว่าได้มอบเงินสดจำนวนดังกล่าวให้ น.ส.นัดดา กับพวก ไปแล้ว โดยไม่ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของนายนรศักดิ์ แต่อย่างใด จากเหตุการณ์ทั้งหมดนายนรศักดิ์จึงเชื่อว่าถูก น.ส.นัดดา กับพวก หลอกลวงตั้งแต่ต้นจนได้รับความเสียหาย คิดมูลเงินกว่า10,379,000บาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.นัดดา พวงเพชร หรือ น.ส.ชนกนันท์ ตุ้มเขียว กับพวก ตามกฎหมายกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและติดตามจับกุม น.ส.นัดดา และเตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงในครั้งนี้อีก4–5คนด้วย

     ทั้งนี้ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ร่วมแจ้งเบาะแสข้อมูลอาชญากรรมและแก๊งมิจฉาชีพ โดยแจ้งข้อมูลผ่าน สายด่วน191 , Application Police I lert Uได้ตลอด24ชม. เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรม

ตร.รวบสาวรุ่นลูกแชทเฟสตีสนิทลุง63ลวงหมั้นหมายสูญกว่า10ล้านบาท

โดย สุรชัย พิรักษา

logoline