เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
7 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 12 / 2564 โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีมติเห็นชอบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคจำนวน 4 รายการ เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยมอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ออกเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขสำหรับสิทธิประโยชน์ใหม่
ข้อเสนอสิทธิประโยชน์ 4 รายการดังนี้
ซึ่งการจ่ายชดเชยบริการจะใช้งบประมาณจำนวน 32,149,500 บาทโดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
นางดวงตา ตันโช ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เพิ่มเติมทั้ง 4 รายการนี้มีการกำหนดเป้าหมายการบริการในปีงบประมาณ 2565 ดังนี้
รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประทานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการบริการสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวได้ผ่านเกณฑ์ การพิจารณาความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ พร้อมกันนี้การมอบ สปสช. พิจารณาประเด็นภาระงบประมาณกรณีต้องตรวจยืนยัน ภายหลังการคัดกรอง รวมถึงการรักษาต่อเนื่อง และการยืนยันตัวตนสามีของหญิงตั้งครรภ์ ที่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียและซิฟิลิส
ในส่วนของสิทธิประโยชน์รายการที่ 1 บริการตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียในคู่ของหญิงตั้งครรภ์พบว่าต้นทุนการตรวจคัดกรองโรคทรสิเมียอยู่ที่ 794 บาทต่อคู่ขณะที่การดูแลผู้ป่วยทาสีมีอาการรุนแรงจะมีต้นทุนการรักษาคนละ 30,000 บาทต่อปี
ในส่วนของสิทธิประโยชน์รายการที่ 2 การคัดกรองซิฟิลิสในคู่ของหญิงตั้งครรภ์พบว่าการตรวจคัดกรองและ รับรักษาก่อนมีบุตร มีต้นทุนต่ำกว่าการตรวจและรักษาเมื่อตั้งครรภ์แล้ว โดยค่าใช้จ่ายในการคัดกรองอยู่ที่ 130 ถึง 400 บาทต่อครัวเรือนและค่ารักษาอยู่ที่ 1500 บาท ในขณะที่การรักษา ซิฟิลิสแต่กำเนิดหนึ่งคนจะมีต้นทุนการรักษาอยู่ที่ 70,667 บาท ต่อครัวเรือน
ในส่วนของสิทธิประโยชน์รายการที่ 3 การตรวจวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านเป็นรายการที่ไม่มีภาระงบประมาณเนื่องจากผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอาจจะเกิดการตื่นเต้นทำให้เกิดความดันโลหิตสูงการให้เครื่องตรวจวัดความดันโลหิตรผู้ป่วยกลับไปตรวจเองที่บ้านเป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อประเมินค่าความดันโลหิตที่แท้จริงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยทางโรงพยาบาลสามารถนำไปเป็นงบประมาณจัดซื้อเครื่องวัดความดันให้ผู้ป่วยยืมกับไปวัดความดันที่บ้าน
ในส่วนของสิทธิประโยชน์รายการที่ 4 บริการสายด่วนเลิกบุหรี่ (โทร 1600) พบว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนทางสังคมได้ 525 ถึง 10,333 บาทต่อผู้สูบหนึ่งราย ซึ่งต้นทุนความสูญเสียจากการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอยู่ที่ 85,000 บาทถึง 158,000 บาทต่อคน