น้ำมันแพง ส่งผลให้ค่ารองชีพเพิ่มขึ้น แนวโน้มราคาสินค้าต่างๆ ขยับตามราคาน้ำมัน และแนวโน้มราคาน้ำมันสูงต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะออกมาช่วยตรึงราคา แต่แรงยื้อนี้ท่าจะฉุดไม่อยู่ ล่าสุด “กระทรวงพลังงาน” ได้ออกมาชี้แจง ทุกปมสงสัย “เนชั่น ออนไลน์” สรุปให้เป็นข้อๆ ดั้งนี้
1. ทำไมน้ำมันราคาแพงมากขึ้น
เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 น้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นจาก 65.35 เป็นปัจจุบัน 84.34 ดอลลาร์/บาร์เรล รวมทั้งผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่ส่งผลต่อต้นทุนนำเข้าในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับขึ้นจำนวน 6 ครั้ง ครั้งละประมาณ 40 – 60 สต./ลิตร มาอยู่ที่ 31.29 บาท/ลิตร
2.ประชาชนเดือดร้อน ช่วยเหลืออะไรบ้าง
กระทรวงพลังงานมีมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 28.29 บาท/ลิตร และเพิ่มมาตรการช่วยเหลือในส่วนของโครงสร้างราคาน้ำมัน ดังนี้
3.ทำไมต้องมี biodiesel และ เอทานอล / ต้นทุนผสม ราคาแพงมาก ทำให้ ราคาน้ำมันแพง / เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มปาล์ม / เคยปรับลดสัดส่วน ผสมในอดีตไหม
การที่มีการผสมเชื้อเพลิงชีวภาพในน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมพลังงานทดแทน ช่วยรักษาเสถียรภาพระดับราคาพืชผลเกษตรของเกษตรกรไม่ให้ราคาตกต่ำ และทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง อีกทั้งยังสามารถลดการนำเข้าน้ำมันได้อีกด้วย
เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ปรากฏในคําแถลงนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่กำหนดให้ “..เปิดโอกาสให้ชุมชนและประชาชนมีส่วนร่วมในการผลิตและบริหารจัดการพลังงาน ส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 และ B100 เพื่อเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มดิบ ...”
นอกจากนี้ คณะกรรมการปาล์มแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันให้มีการผสมเชื้อเพลิงชีวภาพในน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงานให้มีรายได้ที่มั่นคง ลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ
แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาไบโอดีเซลและเอทานอลมีราคาสูงต่างจากกับจากในอดีต กระทรวงพลังงานจำเป็นดำเนินมาตรการปรับลดสัดส่วนการผสมเพื่อให้เกิดความเหมาะสมไม่กระทบประชาชน แต่ก็ยังคงต้องรักษาเสถียรภาพด้านราคาให้แก่ไบโอดีเซลและเอทานอลไม่ให้กระทบเกษตรกร
4. ราคาทะลายปาล์มน้ำมัน ราคาน้ำมันปาล์มดิบ และราคาบี 100 (ย้อนหลัง)
5. ราคา CPO ตอนนี้ ราคาก็ดี ทำไมไม่ลดสัดส่วน ผสมลง และ ส่งออกไปให้หมด ทำให้ราคาน้ำมันถูกลง และ ชดเชย ส่งออก ถูกกว่า
ในระยะสั้นในเดือนตุลาคม 2564 กระทรวงพลังงาน ได้ปรับลดสัดส่วนผสมขั้นต่ำของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซล บี7 และบี10 เป็นร้อยละ 6 โดยปริมาตร และคงสัดส่วนผสมในน้ำมันดีเซล บี20 เท่าเดิม
และในเดือนพฤศจิกายน 2564 จะกลับไปใช้สัดส่วนเดิมตามนโยบายรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ทั้งนี้ ในการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ขึ้นอยู่กับนโยบายของ กนป. และกระทรวงพาณิชย์
6. ทำไมไม่ลดภาษีสรรพสามิต ตั้ง 6 บาท ต่อลิตร เอาไปทำอะไร
ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งรัฐบาลทุกรัฐบาลต้องจัดเก็บเพื่อนำภาษีไปใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และเป็น 40% ของรายได้ประเทศ โดยการจัดเก็บหรือการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังที่จะพิจารณาอัตราภาษีที่เหมาะสม
7. การตรึงราคา อยู่ที่ 30 บาท ใช่หรือไม่ เป็นเช่นนี้ทุกรัฐบาลหรือไม่
มีการตรึงราคา ที่ 30 บาท/ลิตร ในทุกรัฐบาลตั้งแต่ปี 2551 โดยมีรายละเอียดการเปรียบเทียบการตรึงราคาของแต่ละรัฐบาล ดังตาราง
8. ราคาน้ำมันขายปลีก / ค่าไฟฟ้า ประเทศต่างๆ ในแถบนี้ ถูก แพง อย่างไร
ราคาน้ำมันของประเทศไทยสูงกว่ามาเลเซียหรือบางประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน ขึ้นอยู่กับแหล่งทรัพยากรพลังงานในประเทศ นโยบายของรัฐบาล โครงสร้างราคาน้ำมัน ต้นทุนการจัดหาน้ำมัน คุณภาพน้ำมัน และการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้น้ำมัน ซึ่งโครงสร้างราคาน้ำมันจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ต้นทุนเนื้อน้ำมันของไทย มาเลเซีย และประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เช่นเดียวกัน แต่ต้นทุนเนื้อน้ำมันดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับค่าขนส่งซึ่งมีความแตกต่างกันตามที่ตั้งของแต่ละประเทศ อีกทั้งคุณภาพน้ำมันของไทย (ยูโร 4) สูงกว่าบางประเทศในภูมิภาคอาเซียน จึงมีราคาสูงกว่า ทั้งอีกไทยมีการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (เอทานอล และไบโอดีเซล) ตามนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทน ทำให้ไทยมีราคาสูงกว่า
2. ภาษีและกองทุน โครงสร้างราคาน้ำมันของประเทศไทยมีการเก็บภาษีและเงินกองทุน (กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และภาษีต่างๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไทยสูงขึ้นจากต้นทุนเนื้อน้ำมัน
บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน อาทิ มาเลเซีย ไม่มีการจัดเก็บภาษีและกองทุน เนื่องจากมีรายได้จากการผลิตและส่งออกน้ำมันดังกล่าวในการบริหารประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณจากการจัดเก็บภาษีน้ำมัน ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิซึ่งจำเป็นต้องจัดเก็บภาษีน้ำมันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณในการบริหารประเทศ
อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าราคาของประเทศไทยก็ไม่ได้มีราคาสูงหรือต่ำไปกว่ามากตามที่มักมีการกล่าวอ้าง ดังเช่นข้อมูลราคาขายปลีกราคาน้ำมันเชื้อเพลิงณ วันที่ 25 ตุลาคม 2564
ราคาค่าไฟฟ้าแพง เทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อเปรียบเทียบค่าไฟฟ้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ปี 2563 พบว่า ประเทศที่มีค่าไฟฟ้าถูกกว่าไทย ได้แก่
9. แนวทางการกำหนดโครงสร้างราคาน้ำมันในปัจจุบัน
รัฐบาลมีนโยบายยกเลิกการกำหนดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเคลื่อนไหวขึ้นลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นเครื่องมือในการบริหารราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไม่ให้กระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน
กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน มีหน้าที่ในการติดตาม กำกับ ดูแลความเหมาะสมของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจัดทำโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับอ้างอิงความเหมาะสมของราคาขายปลีกน้ำมัน โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้
1. ราคา ณ โรงกลั่น : คือ ราคาเนื้อน้ำมัน ซึ่งอ้างอิงตามราคาตลาดกลางของภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ตลาดสิงคโปร์ เพื่อใช้เปรียบเทียบราคานำเข้าหรือส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ
2. ภาษีสรรพสามิต : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต และตามกรอบงบประมาณ เพื่อนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ
3.ภาษีเทศบาล : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตราร้อยละ 10 ของภาษีสรรพสามิต และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น
4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม : จัดเก็บร้อยละ 7 ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีกร้อยละ 7 ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
5. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เรื่อง การกำหนดอัตราส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน
6.กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน : จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เรื่อง การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ราชอาณาจักร เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงานของประเทศ
7.ค่าการตลาด : คือส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ
ซึ่งรวมถึงคลังน้ำมัน ระบบขนส่ง และสถานีบริการ โดยค่าการตลาดที่เหมาะสมของน้ำมันแต่ละชนิดในปัจจุบันเป็นไปตามมติ กบง. เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563
10. ค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง และการกำกับดูแลค่าการตลาดให้มีความเหมาะสมอย่างไร
ค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง มีหลักเกณฑ์พิจารณาจากค่าใช้จ่ายดำเนินการต่างๆ ของผู้ประกอบการ โดยให้มีผลตอบแทนหรือกำไรขั้นต้นเพื่อให้ครอบคลุมการลงทุน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการดำเนินกิจกรรมด้านการตลาด ดังนี้
ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ศึกษาความเหมาะสมของค่าการตลาดตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น โดยมีค่าการตลาดที่เหมาะสมในช่วงปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตร ต่อมาได้มีการทำงานร่วมกับภาคประชาชน (คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม) ได้มีการทบทวนค่าการตลาดที่เหมาะสมใหม่ โดยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้เห็นชอบค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักทุกผลิตภัณฑ์ไว้ที่ 2.00 บาทต่อลิตร ดังนี้
11. สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกตอนนี้เป็นอย่างไร และในประเทศไทยมีการปรับขึ้นลงอย่างไรบ้าง
ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มสถานการณ์ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง จากการที่ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องหนุนให้โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันในหลายประเทศ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบอยู่ในภาวะตึงตัว สนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปของไทย ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตามในตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันที่กระทรวงพลังงานได้มีมาตรการเข้าไปตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศต่ำกว่าราคาตามต้นทุนที่ควรเป็นของตลาด โดยกองทุนฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนละ 3,152 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2564)