svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบรปภ.ร่วมแก๊งปล้นทรัพย์หนีคดีนาน 9 ปี 

รวบรปภ.หนุ่มร่วมกับพวก 6 คนตระเวนปล้นทรัพย์เหยื่อ ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ-ออกอุบายเรียกให้หยุดรถ หยิบกุญแจรถ-จอดรถล้อมหน้าล้อมหลังไม่ให้หนีได้ ก่อนปล้นทรัพย์เหยื่อไปได้ 5 หมื่นกว่าบาท ตำรวจตามจับนานร่วม 9ปี พบหนีมาเป็นรปภ.โรงพยาบาล สอบเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ

29  ตุลาคม 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., สั่งการให้ชุดจับกุมเข้าจับกุม  นายชัยมงคล หรือโอม (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 15 ม.ค.56  ในข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การ กระทำหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม 

 

นอกจากนี้ยังมีข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร”โดยจับได้ที่  ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

 

รวบรปภ.ร่วมแก๊งปล้นทรัพย์หนีคดีนาน 9 ปี 

 


 

การจับกุมครั้งนี้ หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 04.30 น. ขณะที่นายทองม้วน ซึ่งเป็นผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนบางไผ่-หนองเพรางาย จากทางด้านถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไทรน้อย เพื่อที่จะไปทำงาน โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อผู้เสียหายขับมาถึงบริเวณต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน มาประกบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย และออกอุบายเรียกให้หยุดรถ 

 

โดยนายกฤษฎา  ขี่รถจักรยานยนต์เทียบทางด้านขวาของผู้เสียหาย จากนั้นนายอิศเรศ ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถของนายกฤษฎา ได้เอื้อมมือดึงกุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายออก ทำให้รถของผู้เสียหายดับ ระหว่างนั้นนายธวัชชัย  , นายชัยมงคล  , นายนพดล  และนายปฐวี ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาอีก 2 คัน จอดลักษณะล้อมหน้าล้อมหลังรถของผู้เสียหาย 

 

รวบรปภ.ร่วมแก๊งปล้นทรัพย์หนีคดีนาน 9 ปี 

 

 

จากนั้นนายอิศเรศ  ได้หยิบอาวุธปืนสั้นออกมาจากเอวพร้อมพูดจาข่มขู่และเล็งอาวุธปืนสั้นไปที่ผู้เสียหาย ไม่ให้ต่อสู้ขัดขืนก่อนที่จะปล้นทรัพย์ผู้เสียหายมูลค่าประมาณ 5 หมื่นบาท และด้วยความกลัวผู้เสียหายและภรรยาจึงลงจากรถจักรยานยนต์ โดยนายอิศเรศ ได้ขี่่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไป  หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความ สภ.บางบัวทอง 

 

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน โดยเหลือแต่เพียงนายชัยมงคลที่ยังหลบหนีอยู่ จนกระทั่งสืบทราบว่า นายชัยมงคล ได้หลบหนีมาทำงานเป็น รปภ. ที่ อาคารหอพักโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าจับกุม

 

เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่านายชัยมงคล เคยถูกจับกุมตัวดำเนินคดีต่างๆ เกี่ยวกับทรัพย์ และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำในคดีเกี่ยวกับการปล้นทรัพย์​ เบื้องต้นยังให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา