svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบเครือข่ายแก๊ง Call Center ลวงเหยื่อเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

27 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ PCT รวบผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊ง Call Center 5 คน แบ่งหน้าที่ทำเป็นขบวนการ ตั้งแต่“คนสั่งการ-ม้าถอนเงิน-โพยก๊วน-จัดหาบัญชีและลวงเหยื่อ” อ้างเป็นข้าราชการระดับสูง ลวงเหยื่อมีส่วนร่วมคดียาเสพติด-ฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงิน เสียหายกว่า 13 ล้านบาท 

27 ตุลาคม 2564  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊ง Call center 5 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

 

โดยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า ภายหลังที่่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากถูกคนร้ายโทรศัพท์เข้ามาหลอกว่า ผู้เสียหายมีส่วนร่วมกับคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของคนร้าย ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปหลายราย  

 

รวบเครือข่ายแก๊ง Call Center ลวงเหยื่อเสียหายกว่า 13 ล้านบาท
 

 

โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเทคนิคและสืบสวนที่ 1 PCT สืบสวนสอบสวนจนพบว่าเครือข่ายแก๊ง Call center แบ่งหน้าที่กันเป็น 5 กลุ่ม   1.คนร้ายระดับสั่งการ จำนวน 2 ราย / 2. คนร้ายทำหน้าที่เป็นม้าถอนเงิน จำนวน 2 ราย/3. คนร้ายทำหน้าที่จัดการทางการเงินหรือ โพยก๊วน จำนวน 1 ราย /4. คนร้ายทำหน้าที่จัดหาบัญชีและเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 ราย และ5. คนร้ายที่ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย อยู่ระหว่างสืบสวน น่าเชื่อว่าอยู่ต่างประเทศ

 

กลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์ติดต่อผู้เสียหายผ่านแอพพลิเคชั่น และไลน์ โดยอ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูง หรือ นายตำรวจระดับสูง มีการแจ้งผู้เสียหายมีส่วนร่วมกับคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินให้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งสน.พญาไท และขออนุมัติหมายจับคนร้าย 8 คน โดยจับกุมได้แล้ว 5 คน  ส่วนที่เหลือจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

 


 

 จากการตรวจค้นพบ บัตรอิเลกทรอนิกส์ จำนวน 32 ใบ , เครื่องบันทึกข้อมูล Chip Card จำนวน 1 เครื่อง , คอมพิวเตอร์จำนวน 1 เครื่อง โดยผู้ต้องหาแต่ละคนรับว่า มีหน้าที่ตามคำสั่งของหัวหน้า เช่น ให้ไปถอนเงินจากบัญชี , ให้จัดหาบัญชี , ให้ฝากเงินไปยังบัญชีอื่นๆต่อ

 

โดยผู้ต้องหาจะได้รับส่วนแบ่งจากเงินที่ถอนออกมา 2 – 3 % แล้วแต่หน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดเทคนิคและสืบสวนที่ 1 จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งระดมปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้จะได้แจ้ง ปปง. ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป
 

logoline