ฟู้ด เดลิเวอรี่ โตสวนวิกฤติโควิด-19 โรบินฮู้ด ปักธงสู่ซูเปอร์แอปสัญชาติไทย

ตลาด “ฟู้ด เดลิเวอรี่” (Food Delivery) ไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่ปี 2557 และตัวเลขสูงสุดสวนกระแสสถานการณ์โควิด-19 ปี นับตั้งแต่ ปี 2563 ในขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ได้รับผลกระทบ

 

ในขณะที่ร้านอาหารถูกสั่งงดรับประทานที่ร้าน เปิดบริการเพียงซื้อกลับบ้าน (Take Away ) ทางรอดที่ช่วยพยุงลมหายใจของกิจการร้านอาหาร คือ แพลตฟอร์มออนไลน์ ฟู้ด เดลิเวอรี่ ซึ่งในตลาดไทยมีหลายเจ้า Grab, Lineman, Foodpanda, Gojek (Get), Robinhood (โรบินฮู้ด)

 

ทั้งปี 2564 ปริมาณการสั่งอาหารจัดส่งที่บ้านมีจำนวนไม่น้อยกว่า 120 ล้านครั้ง หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ที่มีจำนวนประมาณ 35 – 45 ล้าน ดันมูลค่ายอดขายสูงถึง 74,000 ล้านบาท (ตัวเลขจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ส.ค.64)

 

แอปพลิชั่น ฟู้ด เดลิเวอรี่ หลายเจ้ามีค่าส่วนแบ่งการขาย (GP/Gross Profit) ที่ผู้ประกอบการต้องยอมรับ เพราะเมื่อทางออกมีให้เลือกน้อย ธุรกิจขนาดใหญ่มีหลายสาขายังพอต่อรองค่าจีพีได้บ้าง แต่ร้านเล็กๆ ต้องกัดฟันดิ้นกันไป 

 

 

ประจวบกับการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป สู่วิถีใหม่  “นิว นอร์มัล” (New Normal) และการปรับรูปแบบการทำงานของภาคธุรกิจมาเป็น Work from home และ Hybrid working  เมื่อผู้คนหันมาใช้บริการ ฟู้ด เดลิเวอรี่  ทางเลือกนี้จึงเป็นทางรอด เพราะ ฟู้ด เดลิเวอรี่ กลายเป็นช่องทางการสร้างรายได้หลักของผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร

หาก โรบินฮู้ด แอปพลิเคชั่น ฟู้ด เดลิเวอรี่ สัญชาติไทย ชูจุดเด่น ด้วยการไม่คิดค่าส่วนแบ่งการตลาดจากร้านค้า และยังเคยทำการตลาดร้อนแรง จัดโปรโมชั่นมอบส่วนลด และยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดส่ง เป็นอีกหนึ่ง CRS ของ SCB  ที่มีแนวคิดที่จะทำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่  ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กในวิกฤติโควิด-19 และดึงดูดผู้บริโภครายใหม่ให้เข้ามาทดลองใช้งานในแพลตฟอร์ม

 

ล่าสุด  “โรบินฮู้ด” เผยผลดำเนินการในรอบ 1 ปี ที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ มีตัวเลขดาต้า ของผู้บริโภคที่ใช้บริการแอปพลิเคชั่นโรบินฮู้ด น่าสนใจ ดังนี้

• ยอดลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานกว่า 2.3 ล้านคน
• จำนวนร้านอาหารที่ให้บริการบนแพลตฟอร์มกว่า 164,000 ร้าน
• มีไรเดอร์พร้อมให้บริการรับ-ส่งอาหารกว่า 26,000 คน
• มีจำนวนออเดอร์ต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 ออเดอร์

 

 

นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม “โรบินฮู้ด” กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่โรบินฮู้ดเปิดให้ทดลองใช้แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีอย่างเป็นทางการ จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการช่วยเหลือ คนตัวเล็กให้สามารถอยู่รอดได้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ด้วยการไม่เก็บค่า GP ร้านอาหาร ส่งผลให้แพลตฟอร์มของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงล็อกดาวน์รอบสองเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เราได้ออกมาตรการพิเศษ ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้คนในสังคม ซึ่งแคมเปญนี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้โรบินฮู้ดสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกมิติ พร้อมสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ร่วมกันช่วยประคับประคองให้สังคมไทยยังคงเดินหน้าต่อไป”

 

 

 

ถอดบทเรียน 1 ปี แอปน้องใหม่สัญชาติไทย

1.ลูกค้าที่ใช้บริการแพลตฟอร์มจะเป็นพลังสำคัญที่จะนำโรบินฮู้ดก้าวสู่ความเป็น super app ในอนาคต

 

2. แพลตฟอร์มแห่งการ “ช่วยเหลือและมีน้ำใจ” ต่อกัน เมื่อเราให้ความสำคัญกับการช่วยคน จะมีแรงดึงดูดผู้คนไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ร้านค้า และไรเดอร์ ที่จิตใจดีและให้คุณค่าของการ “ช่วยเหลือและมีน้ำใจ” มาอยู่รวมกัน ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มสามารถเติบโตต่อไปได้

 

3.ความสนุกของการได้ลงมือทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้ สะท้อนจุดเริ่มต้นและความเป็นตัวตนของโรบินฮู้ดในทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี

 

4.มาตรฐานโอลิมปิก คือ การที่เมื่อคิดจะลงมือทำอะไรให้คิดไปถึงมาตรฐานโอลิมปิก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล

 

5. วิถีมวยรอง ที่ไม่ได้มุ่งหวังจะไปแข่งชิงเบอร์ 1 กับเจ้าตลาดที่แข็งแกร่ง แต่ต้องพยายามหาตำแหน่งทางการตลาดที่เป็น “มวยรอง” เพื่อใช้สร้างจุดยืนของแพลตฟอร์มให้ชัดเจน โดยโรบินฮู้ดเลือกที่จะเจาะตลาดร้านเล็กด้วยการไม่คิด GP จนกลายเป็นภาพจำของผู้ใช้แพลตฟอร์มในทุกวันนี้
 

 

นายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ก้าวต่อไปของโรบินฮู้ด เรายังคงมุ่งมั่นยืนหยัดในการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในหลากหลายมิติมากขึ้น นอกจากธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี โดยเราเตรียมขยายแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดเข้าสู่ 3 ธุรกิจใหม่ที่เป็น Non-Food ได้แก่

 

1.บริการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน กิจกรรมท่องเที่ยว รถเช่า ประกันภัย (Online Travel Agent) หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและช่วยผู้ประกอบการ SME ไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ตัวแทนในการขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์

 

2. บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขายและเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการได้เจอกับลูกค้าโรบินฮู้ดซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและพร้อมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ

 

3.บริการรับ-ส่งของ (Express Service) แบบ on-demand เพื่อรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังขยายตัวแบบก้าวกระโดด

 

“ในปี 2565 ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีที่เป็นธุรกิจเริ่มต้นของโรบินฮู้ดเตรียมขยายขอบเขตการให้บริการสู่ต่างจังหวัด โดยเตรียมปักหมุดนำร่องที่ 3 จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี

 

เป็นพื้นที่ศักยภาพและมีความต้องการบริการด้านฟู้ดเดลิเวอรี่สูง ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของร้านค้า และไรเดอร์ มุ่งพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) ให้ดีขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เน้นสนับสนุนและช่วยเหลือร้านค้าที่ช่วยลูกค้า"

 

 

ดาต้า/ฐานข้อมูลลูกค้า ต่อยอดสู่ธุรกิจอื่น 

การไม่มีค่า gp ทั้งการทำโปรโมชั่นไม่เก็บค่าจัดส่ง ทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นโรบินฮู้ดเป็นจำนวนมาก และจากการดำเนินกิจการมา 1 ปี มี 2.3 ล้านคน  ฐานข้อมูลนี้ได้ถูกนำไปต่อยอด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำโปรโมชั่นกับร้านค้าผู้บริโภค  ไลน์ธุรกิจอื่นๆ เช่น SCBX เช่น Auto X, Card X, Data X, SCB Tech X ในการหาลูกค้า (customer acquisition)  และสู่เป้าหมายการเป็น "ซูเปอร์แอปสัญชาติไทย"

 

"เราได้วางแผนเตรียมระดมทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของแพลตฟอร์มและมุ่งพัฒนาบริการ ปูทางสู่การเป็น ซูเปอร์แอปสัญชาติไทยอย่างเต็มตัว ที่พร้อมรองรับบทบาทการเป็นผู้ให้บริการในระดับภูมิภาค (regional player) ได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป ” นายสีหนาท กล่าวเสริม

 

 

แม้ในอนาคตการระบาดของโควิด-19 จะสู่ภาวะปกติ ที่สามารถควบคุมได้ หากแต่การเกิดขึ้นใหม่ในทุกมิตินับจากโควิด-19 ทำให้เทรนด์การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แม้ผู้คนจะออกมาใช้บริการร้านอาหารได้ กิน-ดื่ม ในร้านได้ หากแต่ “ฟู้ด เดลิเวอรี่” ก็ไม่ได้ลดความนิยมลง ยังเป็นอีกแพลตฟอร์มที่เป็นทางเลือกของผู้ประกอบการร้านอาหารที่ไม่ฝากไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว  และพฤติกรรมของผู้บริโภคก็คุ้นเคยกับการสั่งอาหารออนไลน์ รวมถึงการใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังอย่างเป็นปกติในชีวิตประจำวันมากขึ้น