เคน ภูภูมิ นักแสดงหนุ่มหล่อ กับ ต้นไม้ใบงาม หายาก ที่เนื้อหอมราคาแรงสุดๆ

“เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” นักแสดงหนุ่มรูปหล่อ ที่ผันงานอดิเรก "ปลูกต้นไม้ประดับ" มาสร้างรายได้ก้อนโต

 

ตอนนี้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ครบวงจร ทั้งดิน ปุ๋ย ยาเร่งราก ยาฆ่าเชื้อรา ฯลฯ ภายใต้ชื่อแบรนด์  “We Plant Grow”  อีกทั้งในเฟซบุ๊กเพจ “"We Plant” ยังมีความเคลื่อนไหวการเพาะปลูกไม้ประดับ ให้ความรู้กับแฟนเพจ รวมถึงเปิดขายต้นไม้ มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลายแสนบาท วันหนึ่งขายไม่กี่ต้น ทำราคาได้หลายแสนบาท 

 

เริ่มจากความชอบ และ(ยัง)ทำด้วยความรัก

หากใครติดตามอินสตาแกรม หรือช่องทางโซเชียลต่างๆ ของนักแสดงหนุ่ม "เคน ภูภูมิ" จะเห็นถึงความเติบโตของไม้ประดับต้นเล็กๆ เพียงไม่กี่ต้น ที่งอกงามขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังขยาย เพิ่มจากพันธุ์นี้สู่พันธ์ุนั้น 

 

เพียงระยะเวลาปีกว่า พื้นที่ว่างบริเวณบ้านก็กลายเป็นสวนไม้ประดับ ในที่สุดเสมือนเป็นโรงเรือนเพาะปลูกไม้ประดับแทบทุกสายพันธ์ุที่มีในโลก และเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย

 

 

“ผมเริ่มจากไปซื้อที่สวน พวกไม้เขียวแล้วก็อัลโบ จากนั้นก็สะสมมาเรื่อยๆ ทดลองปลูก ขยายเอง เริ่มจากไม่รู้ แต่ถ้าเลือกปลูกอะไรก็จะหาความรู้เพิ่มทันที ศึกษาทุกมุมเกี่ยวกับเขา เช่น ที่มาประวัติของเขา การเลี้ยงดู การขยาย

 

ทุกวันนี้ก็ยังศึกษาอยู่ตลอด เพราะแต่ละต้นแต่ละสายพันธุ์ มีที่มาแต่ละประเทศ มีประวัติของเขา ศึกษาหมด เป็นช่วง 2 ปีที่ได้อยู่กับต้นไม้ สนุกมาก เหมือนเป็นงานใหม่ จะว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งก็ได้ ผมคัดต้นไม้เองทุกต้น ตัดเองทุกต้น”

พันธุ์ไม้ราคาแพง เปรียบเสมือนเทรนด์แฟชั่น

ในโรงเรือน We Plant มีแทบทุกสายพันธุ์จากทั่วโลก ที่เป็นที่นิยม  และเป็นเทรนด์ฮิตครองกระแสมาตลอด หนี้ไม่พ้น “ไม้ด่าง” ที่กำลังมาแรง ซึ่งตามธรรมชาติแล้วต้นไม้ส่วนใหญ่จะมีใบสีเขียว แต่ก็มีบางพรรณที่มีใบด่างเกิดขึ้น

 

ส่วนไม้ด่างพันธุ์ที่เป็นที่นิยมของนักสะสม เพราะเกิดความด่างยากมาก มีจำนวนน้อย หายาก ที่สำคัญในโรงเรือน We Plant มีครบ อาทิ  Monstera (มอนสเตอร่า), Philodendron (ฟิโลเดนดรอน), Syngonium (ซิงโกเนียม), Alocasia (อโลคาเซีย), Rhaphidophora (ราฟิโดฟอร่า)

 

 

โดยปกติหากมีเวลาว่าง ต้นไม้โตพอ แข็งแรงได้ที่เคนจะไลฟ์ขายต้นไม้ ตัดสดๆ ให้ชม หรือโพสต์รูปเพื่อให้แฟนเพจเสนอราคา ซึ่งบางวันก็มีหลายสิบต้น บางวันไม่ถึงสิบต้น แต่ล้วนทำราคาได้เฉียดแสนบาท

 

ขอย้ำว่า ราคานี้ ขายกันเป็นใบๆ มีข้อ พร้อมราก ราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงแสน อาทิ

Monstera borsigiana aurea ราคา 10,000 บาท

Philodendron bipennifolium variegated(violin) ราคา 12,000 บาท

Monstera borsigiana albo ราคา 5,000 บาท  

Monstera borsigiana mint ราคา 700,000 บาท 

Monstera Thai Constellation ราคา 200,000 บาท 

 

โดยราคาไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับความสวยงาม ความด่าง ความหายาก และองค์ประกอบ อื่นๆ ณ เวลานั้น รวมถึงกระแสความนิยมก็เป็นอีกปัจจัยในการกำหนดราคา เพราะยิ่งคนรู้จักมากขึ้น อยากได้มากขึ้น ส่งผลให้ราคาแพงขึ้น จัดเป็นหนึ่งในกลไกตลาดอยู่แล้ว

 

ในส่วนของการตั้งราคา เคนเล่าว่า “มาจากความสวย หายาก ในแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีแฟนคลับของเขาอยู่ และต้นไม้เหล่านี้ไม่ใช่เป็นที่นิยมแค่ในไทย แต่ทั่วโลกก็เล่นกัน ดังนั้นก็จะมีราคาตลาดโลกอยู่แล้ว หรืออิงจากราคากลาง เพราะตอนนี้กลุ่มคนเล่นต้นไม้ก็ขยายขึ้นมาก”

 

we plant grow สานต่อความรู้ ส่งต่ออาชีพ

ล่าสุดเคนร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดกิจกรรม "คอร์สเทคนิค เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไม้ด่าง" และเรียนรู้เทรนด์ไม้ด่างที่ทำเงินก่อนใคร กิจกรรมผ่านออนไลน์ สำหรับคนที่ลงทะเบียนรับเนื้อเยื่อกล้วยแดงอินโด ใครสนใจแอด Line: @weplantgrow ได้เลย

 

 

“ตอนนี้เพิ่งเริ่มโฟกัสทางด้านงานวิทยากร เพราะทางมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีอาจารย์ที่ทำเรื่องเกษตรอยู่แล้วเลยมีโอกาสได้ทำร่วมกัน ในอนาคตจะมีตามหาวิทยาลัยอื่นๆ หากมีที่ไหนสนใจก็ติดต่อมาได้ครับ

 

จริงๆ We Plant Grow ตั้งมาเพื่อเป็นการเกษตรทุกอย่างอยู่แล้ว มอบความรู้ ทำอื่นๆ อย่างดิน ปุ๋ย ยาเร่งราก ที่เกี่ยวกับการเกษตรด้วย ในอนาคตผมอยากเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้คนเข้ามาดู มาเรียนรู้การเพาะเนื้อเยื่อด้วย เพราะตอนนี้เรามีห้องแล็บของตัวเอง

 

ผมชอบและรู้สึกว่าการเกษตร มันสามารถสร้างอาชีพได้ สามารถหารายได้ได้ อีกอย่างประเทศไทยเองก็เหมาะกับการเกษตร พอเราทำตรงนี้ได้ศึกษาหาความรู้ก็อยากแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นๆ ได้ทำการเกษตรด้วย ให้คนรุ่นใหม่ๆ ใครชอบเกษตรก็สามารถเลี้ยงต้นไม้ได้”

 

 

สุดท้ายหนุ่มเคน ภูภูมิ ฝากบอกว่า ใครที่ต้องการจะเข้ามาในธุรกิจไม้ประดับ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่จะทำ “สำคัญมากครับต้องมีความรู้ไม่ว่าจะทำงานอะไร เราควรมีความรู้ เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ถ้าจะมาแบบซื้อมาขายไปตอนนี้ราคาต้นไม้ค่อนข้างสูง คนที่จะอยู่รอดได้ ต้องมีความรู้จะได้ปลูกเองได้

 

อย่างไรตลาดต้นไม้ก็ไม่มีวันตาย ต่อให้ในเมืองไทยไม่เป็นที่นิยม ต่างประเทศก็ยังนิยมอยู่ และมีมูลค่าสูงด้วย แต่สำหรับผมตอนนี้ยังไม่ได้ส่งออกต่างประเทศ แค่ในไทยขายไม่พอแล้วครับ เพราะต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มันไม่สามารถก๊อบวางได้ มีโอกาสตาย มีโอกาสที่จะไม่สวย และกว่าจะโตพร้อมขายก็ต้องใช้เวลา”

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก : We Plant