svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

ชวนคนไทยร่วมย้อนเวลา เพื่อร่วมรำลึกถึง หม่อมราชวงศ์ "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ชายผู้มีบุคลิกโดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง ปราชญ์ผู้โดดเด่นในเรื่องของการใช้วาทศิลป์ 26 ปีที่ล่วงลับ คนไทยยังคิดถึง "คึกฤทธิ์ ปราโมช" หนึ่งในปูชนียบุคคลของประเทศไทย

9 ตุลาคม ของทุกปีวนมาอีกรอบ ขอชวนคนไทยร่วมรำลึกถึง หนึ่งในปูชนียบุคคลของประเทศไทย ผู้ที่นับเป็นปราชญ์ รอบรู้ศาสตร์และศิลป์ไปหมดทุกแขนง ศาสตราจารย์พิเศษ พลตรี หม่อมราชวงศ์ "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ซึ่งวันนี้ในอดีตของ 26 ปีก่อน ช่างน่าเศร้าช่างและน่าเสียดาย เมื่อสุดยอดนักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง และศิลปินแห่งชาติ ถึงแก่อสัญกรรม ลาลับ..จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ!!

 

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

ประวัติและผลงาน
ศาสตราจารย์พิเศษ พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เกิดวันที่ 20 เมษายน 2454 ในเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านม้า อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
เป็นโอรสคนสุดท้อง ในบรรดา โอรส - ธิดา ทั้ง 6 ของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับ หม่อมแดง (บุนนาค)
เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี 4 สมัย สื่อมวลชนนิยมเรียกทั้งคู่ว่า หม่อมพี่ หม่อมน้อง

ชื่อ คึกฤทธิ์ นั้นมาจากการที่ชอบร้องไห้เสียงดังในวัยทารก จึงได้รับพระราชทานนามนี้จาก สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง


 

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

 

 

เบื้องลึกชีวิตส่วนตัว

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ท่านได้สมรสกับ หม่อมราชวงศ์พักตร์พริ้ง ทองใหญ่ เมื่อปี 2479 มีบุตรธิดา 2 คน คือ หม่อมหลวงรองฤทธิ์ ปราโมช และ หม่อมหลวงวิสุมิตรา ปราโมช หากต่อมาได้แยกกันอยู่กับ ม.ร.ว. พักตร์พริ้ง


แม้จะหย่าขาดจากกัน แต่ต่างก็ไม่สมรสใหม่ และไม่ได้โกรธเคืองกัน โดย ม.ร.ว. พักตร์พริ้ง อยู่กับลูกชายคือ ม.ล. รองฤทธิ์ ที่บ้านในซอยสวนพลู ติดกับบ้านของ ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" และยังไปมาดูแลทุกข์สุขกันเสมอ

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

 

ชีวิตในสมัยวัยเด็ก 
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ เริ่มต้นเรียนหนังสือที่บ้านกับ ม.ร.ว. บุญรับ พี่สาวคนโต จนอ่านภาษาไทยได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี
ปี 2458 เข้าศึกษาภาคบังคับที่ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (วังหลัง) จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
เดินทางไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษที่ โรงเรียนเทรนต์วิทยาลัย จากนั้นสอบเข้า วิทยาลัยควีนส์ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เพื่อศึกษาวิชาปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และการเมือง


สำเร็จปริญญาตรี เกียรตินิยม และอีกสามปีต่อมา ก็สำเร็จปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
นอกจากนี้ ภายหลัง ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อีกหลายสาขาวิชา
 

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ พักอยู่ที่บ้านในซอยพระพินิจ ซึ่งเป็นซอยย่อยอยู่ในซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ เขตสาทร บ้านหลังนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า บ้านซอยสวนพลู

 

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

เส้นทางการทำงาน

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ เริ่มชีวิตการทำงานเริ่มที่ กรมสรรพากร และถูกเกณฑ์ทหารตอนสงครามอินโดจีนได้ยศ สิบตรี
จากนั้นไปทำงาน ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ลำปาง และกลับมาทำงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กรุงเทพมหานคร
เมื่อเข้าสู่แวดวงการเมือง ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" เป็นนักการเมืองแถวหน้า ผู้ก่อตั้ง พรรคก้าวหน้า เมื่อปี 2488 ต่อมาได้ยุบรวมกับ พรรคประชาธิปัตย์ ในปีถัดมา


กล่าวคือ รอยต่อระหว่างนั้น ควง อภัยวงศ์ ได้ชวน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ไปก่อตั้งพรรคใหม่ชื่อ ประชาธิปัตย์ ซึ่ง ควง ดำรงตำแห่งหัวหน้าพรรค ส่วน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค อยู่สู้ในสภา 2 ปี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้เป็น รมช. กระทรวงการคลัง ในรัฐบาลชุด ควง อภัยวงศ์

ต่อมา เมื่อปี 2490 พลโท ผิน ชุณหะวัณ ทำรัฐประหาร แต่ยังไม่พร้อมจะจัดตั้งรัฐบาลของตนเอง จึงไปชวน ควง อภัยวงศ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

ในครั้งนั้น ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีลอย สั่งราชการกระทรวงการคลัง แต่อยู่ได้เพียง 5 เดือน จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็ขึ้นบริหารประเทศแทน
 

วันที่ 16 กันยายน 2491 ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส. และหันหลังลาออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคัดค้านการขึ้นเงินเดือน ส.ส.


จากนั้น ท่านได้ยุติบทบาททางการเมืองอยู่นาน อย่างไรก็ดี ระหว่างนั้น ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้หันไปหยิบจับงานสื่อสารมวลชน เกิดเป็นหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2493


จนหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จึงจัดตั้งและเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง กิจสังคมและการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2518 แม้พรรคกิจสังคมจะได้รับเลือกมาเพียง 18 คน แต่ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็สามารถเป็นแกนกลางในการจัดตั้งรัฐบาลผสม และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2518 - 20 เมษายน 2519
 

นโยบายที่โด่งดังของรัฐบาล "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 
คือ นโยบาย เงินผัน ซึ่งมี บุญชู โรจนเสถียร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกิจสังคม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดูแลนโยบายนี้
ช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2518 หลังจากที่ตัดขาดความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลมาเป็นเวลานาน

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

 

 

ระหว่างการเล่นการเมือง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ มีบุคลิกที่โดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง ที่ทุกคนรู้จักดี คือ เรื่องของการใช้วาทศิลป์ และบทบาทเป็นที่ชวนให้จดจำ เช่น การผวนพูดเล่นชื่อของตัวเองเมื่อมีผู้ถามว่า หมายถึงอะไร โดยตอบว่า คึกฤทธิ์ ก็คือ คิดลึก เป็นต้น


ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ท่านได้รับฉายาจากนักการเมืองและสื่อมวลชนมากมาย เช่น เฒ่าสารพัดพิษ , ซือแป๋ซอยสวนพลู ภายหลังเมื่อมีอาวุโสสูงวัยจนสามารถแสดงความเห็นทางการเมืองได้อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ จึงได้รับฉายาว่า เสาหลักประชาธิปไตย นอกจากนี้ อีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียก ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ในบางแห่ง คือ หม่อมป้า

เกร็ดชีวิตที่น่าสนใจ

ความโดดเด่นในแวดวงภาพยนตร์ หม่อมราชวงศ์ "คึกฤทธิ์ ปราโมช" เคยรับบทเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศหนึ่ง ชื่อว่า ประเทศสารขัณฑ์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Ugly American (1963) คู่กับ มาร์ลอน แบรนโด (พ.ศ. 2506)


เคยรับบทเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ ผู้แทนนอกสภา กำกับโดย สุรสีห์ ผาธรรม นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี เมื่อปี 2526 ด้วย

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

(ยืนแถวหลัง (จากซ้าย) ม.ร.ว. ถ้วนเท่านึก ปราโมช , ม.ร.ว. บุญรับ พินิจชนคดี , ม.ร.ว. อุไรวรรณ ปราโมช , ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช / แถวกลาง พลโท พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับ หม่อมแดง ปราโมช ณ อยุธยา / นั่งหน้า ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช) (เครดิตภาพจาก : thaigoodview)

 

ปราชญ์ในด้านวรรณศิลป์

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ท่านมีผลงานหนังสือที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น สี่แผ่นดิน , ไผ่แดง , กาเหว่าที่บางเพลง , หลายชีวิต , ซูสีไทเฮา , สามก๊กฉบับนายทุน และเรื่องสั้น มอม ซึ่งได้ใช้เป็นบทความประกอบแบบเรียนภาษาไทย บางชิ้นมีผู้นำไปทำเป็นละครโทรทัศน์ เช่น สี่แผ่นดิน , หลายชีวิต และทำเป็นภาพยนตร์ เช่น กาเหว่าที่บางเพลง
 

แม้ ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" จะถือเป็นปราชญ์ที่เชี่ยวชาญหลากหลาย ผ่านประสบการณ์มาชนิดที่คน ๆ หนึ่งจะมีได้ในช่วงชีวิต แต่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คือ งานประพันธ์ นั่นเอง

...
ในช่วงระยะหลัง เมื่อท่านมีอายุมากแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรงนัก แต่ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ก็ยังเขียนบทความในหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวันอยู่เป็นประจำ กอปรกับงานเขียนอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทุกประเภทมากกว่าร้อยเรื่อง ล้วนได้รับความนิยมจากผู้อ่านอย่างกว้างขวางทั้งสิ้น กระทั่งคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้ประกาศให้ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เมื่อปี 2528

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

 

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

 

วันแห่งความอาลัย...ถึงแก่อสัญกรรม

หม่อมราชวงศ์ "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ จนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2530 และเข้ารับการรักษาพยาบาลเรื่อยมาเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรม ณ โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2538 รวมอายุ 84 ปี 172 วัน 


ต่อมาช่วงปลายปี 2551 กระทรวงวัฒนธรรมเสนอชื่อ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ เป็นบุคคลสำคัญของโลกต่อยูเนสโก โดยมีทั้งเสียงสนับสนุน และคัดค้าน

 

ที่สุด..ในวันที่ 23 ตุลาคม 2552 ยูเนสโก ได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นบุคคลสำคัญของโลก ใน 4 สาขา ได้แก่ การศึกษา , วัฒนธรรม , สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาล พ.ศ. 2554 โดยได้รับการประกาศพร้อมกันกับ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ซึ่งได้รับในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาล เมื่อพ.ศ. 2553
 

ร่วมรำลึก ม.ร.ว. "คึกฤทธิ์ ปราโมช" 26 ปีที่จากไป

 

ขอขอบคุณที่มาข้อมูล : วิกิพีเดีย