เกาะติดมาตรการคลายล็อกดาวน์ในรอบล่าสุด
ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นวันแรกของมาตรการ แต่ก็มีคำถามว่า การเดินทางข้ามจังหวัด ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทำได้หรือไม่ หรือ ทำอย่างไร มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
ทีมข่าวได้จากการตรวจสอบ ราชกิจจานุเบกษา “ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ 34) ที่ระบุมาตรการคลายล็อกดาวน์รอบล่าสุด
ข้อ 3 ระบุว่า
“การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดให้บรรดามาตรการ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า ได้แก่
นั่นหมายความว่า มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ข้อห้าม และข้อปฏิบัติที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้ายังคงใช้บังคับต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 ตุลาคมพ.ศ. 2564
ซึ่งข้อห้าม ข้อปฏิบัติเดิมที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ระบุอยู่ใน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๒) บังคับใช้มา ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป มีรายละเอียดดังนี้
ข้อ 6 การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัด
จากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การเดินทางข้ามเขตจังหวัดและการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ไปยังพื้นที่อื่นสามารถกระทำได้ แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนเดินทางต่อเมื่อกรณีมีเหตุจำเป็นเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่โรค และหากเป็นการเดินทางของผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่มีประวัติ เสี่ยงติดเชื้อ ให้เดินทางผ่านมาตรการหรือรูปแบบการเดินทางที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างการเดินทาง
ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่คงมีอำนาจตรวจตราความเรียบร้อย และการตรวจคัดกรองเพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค โดยเป็นไปตามแนวทางที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) กำหนด
ข้อ 7 การขนส่งสาธารณะ
ให้ กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร จังหวัด หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแล การให้บริการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดทุกประเภททั่วราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้โดยสาร สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง การมีระบบระบายอากาศที่ดี การแวะพักตามช่วงเวลา รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้พิจารณาตามความเหมาะสมของยานพาหนะและสภาพการเดินทาง
นอกจากนี้ ให้จัดบริการขนส่งสาธารณะ ที่เพียงพอตามความจำเป็นและตามเวลาที่เหมาะสม ในการเดินทางของประชาชนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวกเพื่อการขนส่งประชาชนเข้ารับวัคซีนและบริการทางการแพทย์
ที่มาข้อมูล