
หลังทำงานวันสุดท้าย ในตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ได้เปิดใจย้อนเรื่องราวชีวิตการทำงานว่า ผ่านมาหมดแล้วทั้งคดีเล็กและคดีใหญ่ ซึ่งคดีที่ถือเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจในอาชีพตำรวจมีด้วยกัน 2 คดี เป็นคดีที่สร้างความสลดใจ และมีผลต่อความรู้สึกเติมเต็มการเป็นตำรวจ
ผลงานประทับใจในอดีต
คดีแรก ปี 2551 ตอนเป็น รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมไขคดี “ปล้นชิงทรัพย์ สังหารโหดคนงานชาวพม่า 4 ศพ” โดยใช้เวลาแกะรอยตามจับคนร้ายได้ทั้งหมด 6 คน โดยคดีนี้แสดงถึงความโหดเหี้ยม บุกเข้าไปในบ้าน จับมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟก่อนลากขึ้นรถยิงทิ้งอย่างเลือดเย็น โดยมีสาวตั้งครรภ์รวมอยู่ด้วย
“คดีนี้อาจจะไม่ใช่คนมีชื่อเสียง แต่ผมสงสารและเห็นใจพวกเขาเป็นอย่างมาก อยู่ในประเทศที่ลำบาก มาหาเงินส่งกลับบ้าน เพื่อให้ชีวิตคนที่บ้านเป็นอยู่ดีขึ้น แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์ ถูกรังแก ถูกข่มเหง และผู้ต้องหาคดีนี้บางรายมีหน้ามีตาสังคมท้องถิ่น และสนิทกับข้าราชการในพื้นที่”
ส่วนคดีที่ 2 ปี 2551 ตอนที่ดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 มือปืนบุกยิงนายหน้าพ่อค้ารถมือสอง ถูกยิงหมกสวนปาล์ม ใช้เวลาทำคดีร่วม 1 เดือนจับผู้ก่อเหตุได้ และสามารถนำกระดูกให้กับญาติไปทำพิธีกรรมทางศาสนา รู้สึกภูมิใจที่ปิดคดี ตอบคำถามคนในครอบครัวเขาได้
ยอมรับอคฝ.ยุคนี้เข้มแข็งมาก
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ บอกอีกว่า ประสบการณ์เป็นตำรวจ งานแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน งานภูธรก็จะเป็นงานเกี่ยวข้องชาวบ้าน แต่งานในนครบาลจะหลากหลายมากกว่า ทั้งคดีอาชญากรรม ช่วยเหลืออาสาสมัคร ประชาสัมพันธ์ และงานที่สำคัญตอนนี้คือการรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมในแต่ละพื้นที่ แต่ละวัน
ต้องบอกเลยว่า อคฝ.ในยุคนี้ เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ กำลังพล และกำลังใจ พร้อมที่สุดที่จะรับมือกับสถานการณ์ สิ่งสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่น ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา ส่วนตัวผู้บังคับบัญชาจะต้องทำตัวให้ลูกน้องเชื่อมั่น รับฟังปัญหา หรือแนวทางจากลูกน้องได้
อะไรที่ผิดอย่าด่า แต่ให้เตือน และแนะนำในสิ่งที่ถูกที่ควร แม้ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เป็นคนออกคำสั่งก็จริง แต่จงมองพวกเขาให้เหมือนเพื่อนร่วมงาน ให้ความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำหรือสิ่งที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา ในตอนนั้นเขาอาจจะไม่เข้าใจ แต่เวลาผ่านไปความจริงมันไม่เปลี่ยน
เชื่อมั่นผบช.น.คนใหม่
เมื่อถามถึงอยากจะฝากอะไรถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนใหม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ บอกทันทีว่าไม่ห่วงอะไรเลย เพราะท่านเติบโตมาในสายนครบาลอยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าสามารถปกครองหน่วยได้ เราต้องทำงานกับประชาชน ก็ขอให้รักเขาเหมือนครอบครัว
ตำรวจต้องพัฒนาศักยภาพ
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ยังได้ฝากถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจว่า ต้องเน้นเรื่องคนทำงานหนักย่อมต้องได้ค่าตอบแทน สวัสดิการที่ควรได้ต้องได้เพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงาน และต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของคนด้วย เพราะตอนนี้โลกหมุนทุกวินาที มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ตำรวจต้องส่งเสริมให้มีการพัฒนาศักยภาพเพิ่มขึ้น
ส่วนในเรื่องการบริหารระดับสูง ของตำรวจ จะแบ่งออกด้วยกัน3กลุ่ม คือกลุ่มอาวุโส กลุ่มความรู้ความสามารถ และกลุ่มเหมาะสม ถ้าบริหารทั้ง3ส่วนนี้ให้สอดรับ ยอมรับ และอยู่ด้วยกันได้องค์กรจะเข้มแข็งมากขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อเกษียณอายุแล้ว คงจะเดินทางไป-กลับ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนหนึ่งใช้ชีวิตส่วนหนึ่งกับครอบครัว เพื่อน และช่วยธุรกิจของทางครอบครัว “เปรียบเสมือนการใช้หนี้ให้กับพวกเขา” ส่วนเส้นทางการเมืองคงไม่เหมาะกับผม