27 กันยายน 2564 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.เปิดให้ผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 2564 ข้อมูลจนถึงวันที่ 27 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามาทั้งหมดจำนวน 4,065 ราย และยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีก 287 ราย
คณะอนุกรรมการระดับเขตได้พิจารณาจ่ายเงินชดเชยแล้ว 3,626 ราย และพิจารณาไม่จ่าย 1,152 ราย เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ รวมเป็นเงินที่จ่ายชดเชยเบื้องต้นไปแล้ว 230,798,800 บาท
นพ.จเด็จ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับตามความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์นั้นๆ
หากพิจารณาแยกตามเขต พบว่า สปสช.เขต 13 กทม. มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามามากที่สุด จำนวน 1,045 ราย รองลงมาคือ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ จำนวน 664 ราย และ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี 556 ราย
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากจำนวนเงินที่มีการจ่ายเยียวยาไป พบว่า สปสช.เขต 13 กทม. จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 25,685,500 บาท รองลงมาคือ สปสช.เขต 4 สระบุรี 22,708,500 บาท และ สปสช.เขต 6 ระยอง จ่ายเงินแล้ว 20,208,800 บาท
นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักการจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ สปสช. นั้น ไม่ไช่การพิสูจน์ถูกผิด หรือชี้ชัดว่าเป็นผลที่เกิดจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด แต่เป็นเงินเยียวยา เพื่อลดผลกระทบที่เกิดแก่ประชาชนเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
แม้ในภายหลังจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า สาเหตุของอาการต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวัคซีน ก็ไม่เป็นเหตุให้เรียกเงินคืนแต่อย่างใด