27 กันยายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับมาตรการ สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยลดระยะเวลาการกักตัวสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่ได้รับการกักกันในสถานที่กักกันทุกรูปแบบ รวมทั้งผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวหรืออื่นๆ ตามนโยบายของรัฐโดยเริ่มวันที่ 1 ต.ค.2564 ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ
1.มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate) ครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยทุกช่องทาง กรณีเดินทางทางน้ำต้องมีการรับรองการฉีดวัคซีนทุกคน โดยลดเวลากักตัวหรือเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างน้อย 7 วัน และจะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (6-7)
2.ไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccine Certificate) หรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ แบ่งเป็นการเดินทางมาทางอากาศ ให้กักตัวอย่างน้อย 10 วันเดินทางทางน้ำ (กรณีมีคนใดคนหนึ่งบนเรือไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน) จะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (8-9 ) และเดินทางทางบก เนื่องจากไม่มีการตรวจหาเชื้อมาก่อนและมีอัตราการติดเชื้อมากกว่าทางอากาศ ให้กักตัวคงเดิม 14 วัน จะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (12-13)
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การปรับมาตรการสำหรับการทำกิจกรรมในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนด โดยสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ) มีการปรับให้มีการออกกำลังกายกลางแจ้ง การว่ายน้ำการปั่นจักรยาน (กรณีมีสถานที่ลักษณะปิดและควบคุมได้) การสั่งซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอก รวมถึงการประชุมสำหรับนักธุรกิจเข้ามาในระยะสั้น ขณะที่สถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ (SQ) สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศและสถานกักกันโรคของหน่วยงาน (OQ) สำหรับกับการบุคลากรของหน่วยงานที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ปรับมาตรการให้สามารถออกกำลังกายกลางแจ้ง และสั่งซื้ออาหารจากภายนอกและสั่งซื้อสินค้าได้