เกมที่สอง ฟุตซอลไทย ไล่ตีเสมอโมร็อกโกได้ใน 12 วินาทีสุดท้าย จาก จิรวัฒน์ สอนวิเชียร โดยมีชื่อ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง เป็นผู้ทำแอสซิสต์ ช่วยเก็บแต้มแรกในฟุตซอลชิงแชมป์โลก ที่ลิทัวเนีย และมีโอกาสสูงมากที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้อีกครั้ง
"ครึ่งแรกเราเล่นกันได้ไม่ค่อยดี แต่ครึ่งหลัง เราก็รวมพลังฮึดสู้จนกลับมาได้ คือ เราต้องเล่นให้ดีกว่าเดิม และเราก็สู้จนวินาทีสุดท้าย จนกลับมาเสมอได้" ศุภวุฒิ กล่าว
"สถานการณ์มันเปลี่ยนไปเลย หลังจากที่เราจะแพ้ แต่เรากลับมาได้ผลเสมอ ส่วนเกมต่อไปกับ โซโลมอน เรารู้ว่ามันไม่ง่ายและไม่ยาก เราต้องทำงานหนัก เล่นให้ดีตั้งแต่เริ่มเกม"
"ความรู้สึกหลังจบเกมมันก็คุ้มค่า ที่เราใส่หมด เราเหนื่อยแต่เราได้ผลตอบแทนที่ดี จากที่เราเหนื่อยมันหายเหนื่อยไปเลย และมีพลังที่จะสู้ต่อไปในเกมต่อไป"
ด้าน จิรวัฒน์ สอนวิเชียร พูดถึงการตัดสินใจยิงของเขา ที่กลายเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ ฟุตซอลชายทีมชาติไทย เสมอกับ โมร็อกโก ไปแบบสุดมันส์ 1-1
"รู้สึกดีใจครับ ที่ยิงประตูตีเสมอให้กับทีมได้ เพราะว่าอย่างน้อยเราก็มีแต้ม และมีโอกาสเข้ารอบต่อไปมากพอสมควร" จิรวัฒน์ กล่าวเริ่ม
"การตัดสินใจในจังหวะนั้น เราเจอสถานการณ์แบบนั้นหลายรอบแล้ว และมันไม่มีทางส่ง ลูกนั้นจังหวะมันพอดี ที่อาร์มดึงจังหวะไว้ และส่งมาให้ผม เวลาก็บีบเข้ามา ทำให้เราต้องเลือกที่จะยิงมากกว่าส่งและเราก็ทำได้"
ด้าน รณชัย จูงวงศ์สุข กล่าวว่า "ประตูของพี่เนิส สำคัญกับทีมของเรามาก เหมือนมันปลดล็อคได้และเราก็มีแต้ม เพื่อเข้ารอบต่อไป เกมต่อไปก็จะทำให้ได้สามแต้ม ลูกนั้นมันก็ต้องยิงแล้ว เพราะเวลาและสถานการณ์ทุกอย่างมันกดดัน พี่เขาก็ตัดสินใจได้ดี"
ส่วน คทาวุธ หาญคำภา ที่ป้องกันจังหวะสำคัญๆ ได้หลายครั้งในเกมนี้ บอกว่า "เคล็ดลับการป้องกันประตูคือเรื่องของสมาธิ ผมพยายามจ้องที่บอลอย่างเดียว และขอให้มันไม่เข้า เพื่อนๆ ทุกคนก็ช่วยกันเล่นสุดใจ ผมคิดว่าเราต้องพยายามช่วยเหลือทีมให้มากที่สุด"
"ตอน 12 วินาทีสุดท้าย ทุกคนยังสู้และไม่ถอดใจ ผมภาวนา และนึกถึงหลวงปู่ทวด ที่พี่สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีม ให้มาอยู่ตลอด และมันก็ได้ผลจริงๆ"
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ฟุตซอลทีมชาติไทย จะลงทำการแข่งขันฟุตซอลโลก กลุ่มซี นัดที่สาม พบกับ หมู่เกาะโซโลมอน ที่ ซัลกิริส อารีนา ในวันที่ 19 กันยายน 2564 เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)