
11 กันยายน 2564 ที่ลานกิจกรรมหน้าจุดประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซาอุดรธานี ได้เปิดพื้นที่จัดกิจกรรม “เซ็นทรัลห่วงใยไทอุดรไม่ทิ้งกัน” เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา โดยมีวงดนตรีศิลป์ชัยมิวสิค วงดนตรีผู้พิการทางสายตาของ จ.อุดรธานี มาเปิดการแสดงเปิดหมวกเพื่อขอรับเงินบริจาค หลังจากประสบปัญหาไม่มีการจ้างงาน และไม่สามารถออกแสดงเปิดหมวกตามตลาดนัดได้เหมือนปกติ เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด–19 ซึ่งทางเซนทรัล พลาซา อุดรธานี ได้จัดเตรียมสถานที่เก้าอี้สำหรับการแสดง และเครื่องเสียงบางส่วน โดยไม่มีการจัดเก็บค่าเช่าสถานที่แต่อย่างใด และมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมภายในห้างอยู่เป็นระยะ จัดให้มีการแสดงทุกวันเสาร์และอาทิตย์ แบ่งการแสดงเป็น 2 ช่วง 14.00 น. – 15.00 น. และ 17.00 น. – 18.00 น. ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปยังมีประชาชนออกมาใช้บริการศูนย์การค้าอยู่พอสมควร โดยมีผู้คนสนใจยืนชมการแสดงและบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือตามกำลังทรัพย์ สร้างความสุขสร้างรอยยิ้มให้กันและกัน
นายวันพระ อังศุนาค อายุ 27 ปี หัวหน้าวงดนตรีศิลป์ชัยมิวสิค เปิดเผยว่า พิการทางสายตาตอนอายุ 10 ปี เนื่องจากโดนฟ้าผ่า โชคดีที่ไม่เสียชีวิต แต่ก็ต้องอยู่ในโลกความมืดมาโดยตลอด เกิดที่ จ.สมุทรปราการ ครอบครัวทำงานโรงงาน พ่อและแม่เสียชีวิตแล้ว เหลือแต่ยายอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ชอบดนตรีรักการร้องเพลงอยู่แล้วจึงฝึกหัดด้วยตัวเอง และเล่นกีฬาควบคู่ไปด้วย เรียนจบปริญญาตรีจาก ม.การกีฬาแห่งประเทศ วิทยาเขตสุพรรณบุรี หรือ สถาบันการพละในขณะนั้น เอกวิทยาศาสตร์การกีฬา จนได้มีโอกาสเล่นกีฬาโกลบอล และติดทีมชาติไทยในที่สุด “ผลงานที่ผ่านมาแข่งขันฟุตบอลคนตาบอดได้รางวัลระดับประเทศมามากมาย แต่ที่ภูมิใจที่คือได้เหรียญทองในการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ที่เมียนมาปี 2557 และที่มาเลเซียปี 2560 ขณะเป็นนักกีฬาได้เบี้ยเลี้ยงเดือนละ 9,000 บาท เงินอัดฉีดที่เมียนมาได้ 50,000 บาท และที่มาเลเซียได้ 100,000 บาท ด้วยความรักดนตรีได้ย้ายมาอยู่กับแฟนที่อุดรธานีเมื่อปี 2560 นำเงินเก็บทั้งหมดมาซื้อเครื่องเสียง เครื่องดนตรี รวมกลุ่มผู้พิการทางสายตาประมาณ 10 คนตั้งวงดนตรีศิลป์ชัยมิวสิครับงานออกแสดงทั่วไป และเปิดหมวกตามตลาดนัด ถนนคนเดิน”
นายวันพระ เปิดเผยอีกว่า จากสภาพร่างกายที่มีการบาดเจ็บที่หัวเข่า ทำให้ไม่สามารถติดทีมชาติไปเล่นพาราลิมปิกที่โตเกียวได้ ตนรู้สึกเสียดายมากเงินเบี้ยเลี้ยงที่เคยได้ก็ไม่มีต้องตระเวนแสดงดนตรีหาเลี้ยงชีพ ตนจะควบคุมดูแลวงทั้งหมด และรับหน้าที่ร้องนำไปด้วย ก่อนการระบาดโควิด–19 ยังพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันได้อยู่ พอโควิดระบาดก็เริ่มได้รับผลกระทบไม่สามารถออกทำการแสดงได้ตามปกติ ทำให้ตนต้องขายเครื่องเสียงเครื่องดนตรีทั้งหมดที่ลงทุนไปร่วมแสนบาท เพื่อนำมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมแล้วจ่ายเดือนละ 20,000 บาท เนื่องจากอยู่ร่วมกัน 10 กว่าคน ต้องเช่าบ้านอยู่ร่วมกัน 3 หลัง
“หลังจากเดือดร้อนได้โพสต์เฟซบุ๊คขอความช่วยเหลือจนกระทั่ง สจ.แม็ค หรือนายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง สจ.อุดรธานี เขต 1 เข้ามาช่วยเหลือ และประสานกับเซนทรัลเพื่อขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่เปิดทำการแสดง ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือพวกเราในครั้งนี้เหมือนเป็นการต่อลมหายใจให้กับผู้พิการทางสายตาอย่างพวกเรา สัปดาห์ที่แล้วได้ยอดบริจาค 12,000 บาท หักค่าเช่าเครื่องเสียง เครื่องดนตรีแล้ว ก็จะเหลือแบ่งกันประมาณคนละ 400 บาท และจะหักไว้ 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปสมทบทุนสมาคมคนตาบอด จ.อุดรธานี โดยมี สจ.แม็ค เป็นผู้ดูแลและอำนวยความสะดวกให้พวกเรานำเงินส่วนนี้ไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งให้กับผู้พิการทางสายตาอีกประมาณ 700 คน”
นายวันพระ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในนามผู้พิการทางสายตา ขอขอบพระคุณทุกฝ่ายอีกครั้งที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเรา ในอนาคตไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่ก็จะขอสู้ต่อไปสู้จนถึงที่สุด ขอให้เราได้สู้จนสุดความสามารถ แม้พวกเราจะอยู่ในความมืด แต่ในใจของพวกเรามีแสงสว่างอยู่เสมอ หากท่านได้อยากจะร่วมทำบุญ สมทบทุนผู้พิการทางสายตา สามารถมาให้กำลังใจกันได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ที่เซนทรัล พลาซา อุดรธานี หรือให้กำลังใจพวกเราผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค “วงดนตรีศิลป์ชัยมิวสิค” หรือถ้าจะติดต่องานได้ที่เบอร์โทร 080-7291494 ,065-0027795