สภาพใจกลาง เมืองบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของ อาร์เจนตินา สะท้อนถึงผลกระทบจากโรคระบาดได้ชัดเจนสำหรับทุกคน ตามหน้าต่างร้านค้ามีป้ายเขียนว่า เรากำลังจะจากไป , เสร็จสิ้นคดีความ และ ปิดกิจการ มันเป็นเครื่องเตือนใจถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเจ็บปวดจาก โควิด-19
เช่นเดียวกับศูนย์กลางเมืองอื่น ๆ เมืองหลวงที่งดงามและมีชีวิตชีวาของ อาร์เจนตินา ต้องเผชิญกับปัญหามาตั้งแต่ตอนที่ ไวรัสโคโรนา เข้าโจมตีเมื่อปีที่แล้ว ออฟฟิศต่าง ๆ ปิดทำการ เนื่องจากคนจำนวนมากทำงานจากที่บ้าน ซึ่งเป็นการตัดความต้องการร้านกาแฟ ร้านค้า และบริการในย่านการค้าใจกลางเมืองออกจากของผู้บริโภค
ในปี 2563 กรุงบัวโนสไอเรส ต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ 9.2 % ซึ่งก็คล้ายกับการลดลงในทั่วประเทศ การระบาดใหญ่ทำให้โรงเรียนปิดเกือบตลอดทั้งปี การขนส่งสาธารณะถูกจำกัดเฉพาะผู้ปฏิบัติงานที่จำเป็น รวมถึงการจำกัดกิจกรรมทางสังคม ตอนนี้เมืองกำลังมองไปที่การฟื้นฟู และคิดกันใหม่ว่าย่านใจกลางเมืองจะมีลักษณะอย่างไรหลังโรคระบาด เมื่อออฟฟิศต่าง ๆ ได้เปลี่ยนมาเป็นที่อยู่อาศัย เพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยมากกว่าแค่พนักงาน รัฐบาลของเมืองคาดว่าจะอนุมัติโครงการที่จะเสนอเงินอุดหนุนสำหรับสินเชื่อจำนอง และสำหรับเจ้าของออฟฟิศที่ต้องการลงทุนเพื่อดัดแปลงมันไปเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนแกนนำธุรกิจก็ได้รับการยังผลักดันสำหรับการเปลี่ยนแปลงในรูปของการลดหย่อนภาษี
บนถนนฟลอริด้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนคนเดินใจกลางย่านการเงินของ บัวโนสไอเรส ซึ่งในช่วงก่อนโรคระบาดเต็มไปด้วยนักช็อป ผู้มาเยือนและศิลปินเปิดหมวก บรรดาเจ้าของร้านที่นี่ต่างก็บอกว่าการปิดตัวของการท่องเที่ยวนั้นเลวร้ายเพียงใด และออฟฟิศต่างๆ ได้รับผลกระทบเพียงใด
เสน่ห์ส่วนหนึ่งของที่ถนนฟลอริดาก็คือ "กาเลเรีย" หรือศูนย์การค้า ซึ่งบางแห่งก็เป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมย้อนกลับไปถึงยุคทองของ บัวโนสไอเรส เมื่อกว่าหนึ่งศตวรรษก่อน ตามรายงานของสมาคมเพื่อนถนนฟลอริด้า จากร้านค้า 900 แห่งใน กาเลเรีย มีการปิดกิจการไปแล้วประมาณ 500 แห่ง และงาน 2,500 ตำแหน่งหายไปจากที่นี่ตั้งแต่เริ่มระบาด