
1 กันยายน 2564 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ นำคณะสื่อมวลชน ทั้งสื่อทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ นักจัดรายการวิทยุ สื่อโซเชียลมีเดีย และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน/ชุมชน (อป.มช) ที่ได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว จำนวน 20 คน เดินทางไปศึกษาการดำเนินงาน โครงการโคก หนอง นา โมเดล ครัวเรือนต้นแบบของนายสมบัติ อ่อนน้ำคำ บ้านทุ่งหรรษา หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งจังหัน อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้มีการพัฒนาต่อยอดจากเกษตรทฤษฎีใหม่ สู่ โคก หนองนา โมเดล ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้บริหารจัดการน้ำ และพื้นที่การเกษตรที่หลากหลาย เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งการนำคณะสื่อมวลชนไปศึกษาดูงานในพื้นที่การดำเนินงานของครัวเรือนต้นแบบครั้งนี้ เพื่อจะได้นำแนวคิด หลักการทำงาน จากการน้อมนำศาสตร์พระราชา สู่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรม ไปเผยแพร่ให้ประชาชน หรือเกษตรกรได้รับรู้อย่างกว้างขวาง เพื่อเป็นต้นแบบในการพึ่งพาตนเอง
สำหรับครัวเรือนต้นแบบโครงการ โคก หนอง นา โมเดล ของผู้ใหญ่สมบัติ ได้น้อมนำศาสตร์พระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่ ของในหลวงรัชการที่ 9 ไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่แปลงเกษตรของตนเอง จากเมื่อก่อนทำนาปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว และเคยใช้สารเคมี หลังฤดูเก็บเกี่ยวก็จะปล่อยพื้นที่ว่าง ทำให้ดินมีสภาพเสื่อมโทรม จึงได้ลองหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชผสมผสานหลากหลายชนิดทั้งพืชอายุสั้น ไม้ยืนต้น ต่อมาได้เข้าร่วมโครงการ โคก หนอง นาโมเดลของกรมพัฒนาชุมชน โดยแบ่งเนื้อที่ 12 ไร่ ทั้งทำนา ขุดสระ ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชอายุสั้นหมุนเวียนตามคันนาและขอบสระโดยไม่ปล่อยให้พื้นที่ว่างเปล่า ทั้งมีการเลี้ยงสัตว์ ไก่ เป็ด ปลา กบ และทำปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองแบบครบวงจรให้เกิดการพึ่งพาตนเองมากที่สุด
ทั้งนี้ผู้ใหญ่สมบัติ ยังได้ฝากแนวคิดถึงผู้ที่ทำการเกษตร และผู้ที่คิดจะทำการเกษตรว่า อย่าเร่งรีบลงทุน ลงแรงทำให้มากจนเกินไป เพื่อต้องการให้เกิดรายได้เร็ว แท้จริงแล้วการทำการเกษตรแบบโคก หนอง นาโมเดล เป็นการทำเกษตรด้วยใจ ทำไปเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไปด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ความมุ่งมั่น เพราะการทำการเกษตรต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเห็นผลที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน ซึ่งหากใครสนใจสามารถมาศึกษาดูงานเพื่อนำไปปรับใช้ในการทำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเองได้
ด้านนายชาตรี ฉิมพรัตน์ นายอำเภอโนนสุวรรณ กล่าวว่า โคกหนองนาโมเดล ของอำเภอโนนสุวรรณปัจจุบันมีอยู่ 20 กว่าแปลง บางส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการโคกหนองนาก็จะสามารถพึ่งพาตนเองด้วยการลดรายจ่ายสามารถเก็บพืชผักมาบริโภคในครัวเรือน เหลือก็สามารถนำไปขายสร้างรายได้ ถือเป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดการอพยพเคลื่อนย้ายไปทำงานนอกพื้นที่ได้อีกด้วย
โดย - สุรชัย พิรักษา