svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดแผน จัดหาวัคซีน 120 ล้านโดส ในสิ้นปี 64

รัฐบาล มีเป้าหมายสรรหาวัคซีนให้ 120 ล้านโดส ภายในปี 2564 จะทำได้หรือไม่ ในขณะที่สถานการณ์ตอนนี้ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด และการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า

24 สิงหาคม  2564  วัคซีนโควิด-19 ล่าช้า เป็นสาเหตุใหญ่ ที่ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ควบคุมได้ยากขึ้น รัฐบาลไม่สามารถเอาอยู่  แม้จะสั่งซื้อวัคซีนหลายยี่ห้อ ใช้งบการจัดซื้อพุ่งไปกว่าหลายหมื่นล้านบาท แต่ก็เหมือนในประเทศไทยมีเพียงวัคซีน 2 ยี่ห้อหลัก คือ “ซิโนแวค” กับ “แอสตร้าแซนเนก้า”

 

ในขณะที่ตัวเลข ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันอังคารที่ 24 ส.ค. 2564  (ข้อมูลนับจาก วันที่ 1 เม.ย.64)

 

- ผู้ป่วยรายใหม่ 17,165 ราย

- หายป่วยแล้ว 854,403 ราย

- ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,055,088 ราย

- เสียชีวิตสะสม 9,694 ราย

 

การรับวัคซีนของประชาชน (28 ก.พ.-23 ส.ค. 64)  สะสมทั้งหมด จำนวน 27,612,445 โดส

 

เปิดแผน จัดหาวัคซีน  120 ล้านโดส ในสิ้นปี 64

 

ล่าสุด 23 ส.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ร่วมหารือกับ นายปาสคาล โซริออต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด ถึงความร่วมมือและความพยายามในการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประเทศไทย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

 

อีกทั้งยังมีการพูดคุยกันถึงการเร่งจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อให้สามารถส่งมอบวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดส ให้แก่ประเทศไทยได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยแอสตร้าเซนเนก้ายังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับกรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน

 

นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับปี 2565 ให้กับประเทศไทย ซึ่งรวมถึงวัคซีนรุ่นใหม่ของแอสตร้าเซนเนก้า อย่าง AZD2816 คาดว่าสั่งซื้ออีก 60 ล้านโดส มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้วัคซีนอยู่ในระหว่างการพัฒนา

 

รัฐบาลไทยมีแผนสั่งซื้อแอสตร้าเพิ่มอีก 60 ล้านโดสสำหรับปี 2565 พร้อมวางเงินมัดจำ ข้อตกลงดังกล่าวจะสรุปได้ภายในเดือน ก.ย.นี้

ทำให้ยอดวัคซีนแอสตร้าทั้งเก่าและใหม่อยู่ที่ 121 ล้านโดส คิดเป็นเงิน 26,970 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี

 

แบ่งเป็นปี 64 จำนวน 61 ล้านโดสๆ ละ 5 ดอลลาร์ รวม 9,150 ล้านบาท (ดอลลาร์ละ 30 บาท) และปี 65 จำนวน 60 ล้านโดสๆ ละ 9 ดอลลาร์ รวม 17,820 ล้านบาท (ดอลลาร์ละ 33 บาท)

 

เปิดแผน จัดหาวัคซีน  120 ล้านโดส ในสิ้นปี 64

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีเป้าจัดหาวัคซีนทุกประเภทในสิ้นปีนี้ รวมกันเกิน 120 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรกว่า 60 ล้านคน ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่ตั้งเป้าจะจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดส สำหรับประชากร 50 ล้านคน

 

ถึงตอนนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งปรับแผนการจัดหาวัคซีนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งประเภท และปริมาณของวัคซีน และระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับมอบวัคซีนในช่วงที่เหลือของปี 2564 และในช่วงปี 2565 เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนได้ประสิทธิภาพสูงสุด และไม่มีปัญหาการเข้าถึงวัคซีนเหมือนที่ผ่านมา ความหวังของไทย คือ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประชาชนได้อย่างน้อย 70% ภายในปี 2564

เปิดแผน จัดหาวัคซีน  120 ล้านโดส ในสิ้นปี 64

 

เปิดไทม์ไลน์วัคซีนในไทย

 

"กรุงเทพธุรกิจ" รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข มีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้ประชากรที่อยู่ในประเทศไทย 70% ภายในปี 2564 ซึ่งมีการเสนอแผนการจัดหาวัคซีน 168 ล้านโดส โดยมีระยะเวลาการส่งมอบตั้งแต่เดือน ก.พ.2564-มี.ค.2565 แบ่งการจัดหาเป็น 5 กลุ่ม คือ

 

1.วัคซีนซิโนแวค 19.5 ล้านโดส มีระเวลาการส่งมอบตั้งแต่ ก.พ.-ส.ค.2564 ใช้งบกลางจัดหา 7.6 ล้านโดส ใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา 10.9 ล้านโดส และรับบริจาคจากจีน 1 ล้านโดส

 

2.วัคซีนแอสตร้า เซเนก้า 62.46 ล้านโดส มีระยะเวลาการส่งมอบตั้งแต่ ก.พ.-ธ.ค.2564 เป็นการใช้งบกลางจัดหา 26 ล้านโดส ใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา 35 ล้านโดส รับบริจาคจากญี่ปุ่น 1.05 ล้านโดส รับบริจาคจากสหราชอาณาจักร 415,000 โดส

 

3.วัคซีนไฟเซอร์ 31.5 ล้านโดส มีระยะเวลาการส่งมอบตั้งแต่ ส.ค.-ธ.ค.2564 เป็นการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา 30 ล้านโดส  (โดยให้มีการอนุมัติงบประมาณจากเงินกู้ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงิน 9.37 พันล้านบาท) และรับบริจาคจากสหรัฐ 1.5 ล้านโดส

 

4.วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส ระยะเวลาการส่งมอบ ธ.ค.2564 โดยทั้งหมดเป็นการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา

 

5.วัคซีนซิโนแวค วัคซีนแอสตร้า เซเนก้า และวัคซีนอื่นๆ 50 ล้านโดส ระยะเวลาการส่งมอบ ม.ค.-มี.ค.2565 โดยทั้งหมดเป็นการใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินจัดหา

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ และ ผู้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถติดตามได้ ที่นี่ 

 

เปิดแผน จัดหาวัคซีน  120 ล้านโดส ในสิ้นปี 64