19 สิงหาคม 2564 การจัดเก็บขยะติดเชื้อ หลังจากที่มีโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทำให้คนที่ต้องแบกภาระในการจัดการขยะคือเทศบาลที่ต้องเพิ่มงบประมาณ อีกทั้งพบปัญหาเรื่องของคนงานในการจัดเก็บไม่เพียงพอ ซึ่งพบว่าต้องใช้ค่าจัดการขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 เท่า ถึงแม้จะติดต่อบริษัทเอกชนเข้ามาช่วยในการกำจัด แต่พบว่าหลายบริษัทมีงานล้นมือจึงยังต้องใช้คนงานของเทศบาลจัดเก็บขยะ เฉลี่ยคนละ 1.8 ตันต่อวัน ขณะที่ มีขยะติดเชื้อจาก โรงพยาบาลและสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยง กว่า10 แห่งที่เทศบาลต้องดูแลทั้งหมด คือ 1.โรงพยาบาลสนาม มข. 2.รพ.สนามพุทธมณฑล 3.รพ.จิตเวช 4. แคมป์คนงานบ้านสีฐาน 5.เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 6.โรงแรมกรีน 7.รพ.ราชพฤกษ์ 8.โรงแรมไอ โฮเทล ขอนแก่น 9. โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น 10. รพ.สนามท่าพระ
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เทศบาลฯดำเนินการจัดเก็บขยะติดเชื้อเพื่อนำไปกำจัดเฉลี่ยวันละ ประมาณ 300 กิโลกรัม ขณะเดียวกันก็มีสถานพยาบาลคลินิกต่าง ๆ มีเอกชนไปรับเพื่อนำไปกำจัดต่างหาก และมีการจ้างกำจัด จ้างเก็บต่างหากก็ประมาณ 900 กว่ากิโลกรัม ดังนั้นไม่นำมาคิดในส่วนนี้ ส่วนที่เป็นภารกิจเทศบาลจริงๆก็คือเดิมประมาณ 300 กิโลกรัมแต่พอมีสถานการณ์โควิดขึ้นมา ขยะติดเชื้อก็มากขึ้น เพราะมีโรงพยาบาลสนาม มีขยะที่จะต้องดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 900 กว่ากิโลกรัม เฉลี่ยประมาณวันละ 1,000 กิโลกรัม ขณะที่รถก็ยังมีอยู่เท่าเดิม คือ 1 คัน ส่วนปริมาณของโรงพยาบาล ถ้าเป็นในเขตเทศบาลโดยศักยภาพของเทศบาลในปัจจุบัน ก็ยังพอรับมือได้ แต่หากมีการขยายโรงพยาบาลสนามมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็จะเกินขีดความสามารถเพราะทางเทศบาลกำลังดำเนินการประสานหาบริษัทเอกชนเพื่อมารับในการเก็บขยะเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้ได้รับคำตอบว่า บริษัทเอกชนต่างๆที่ติดต่อไป ต่างก็มีงานล้นมือ ทำให้ยังไม่มีบริษัทไหนที่พร้อมที่จะเข้ามารับเพิ่ม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ
“ทำให้ในตอนนี้ทางเทศบาลจึงแก้ปัญหาโดยการปรึกษากับทางกรมอนามัยว่า วิธีการที่เทศบาลใช้รถขยะทั่วไปจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งทางกรมอนามัยก็มาดำเนินการและมาพูดคุยกันแล้วและบอกวิธีการให้ทราบ โดยวิธีการคือใช้รถขยะ ที่มีระบบฝาปิดมิดชิด เนื่องจากว่ารถขยะทั่วไปไม่มีระบบห้องเย็น แต่ความจริงขยะตามครัวเรือน หรือโรงพยาบาลสนาม ก็จะต่างจากขยะติดเชื้อของโรงพยาบาลทั่วไปที่จำเป็นจะต้องมีห้องเย็นก็คือมีจำพวก ชิ้นเนื้อ หรือเลือด ทำให้ต้องมีระบบห้องเย็นเพื่อที่จะได้รักษาอุณหภูมิไม่ให้เน่าเสียมากจนเกินไป แต่ขยะติดเชื้อของครัวเรือน โรงพยาบาลสนามที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไม่ได้เป็นลักษณะดังกล่าว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกที่ใช้แล้ว ก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อ ดังนั้นก็สามารถใช้รถขยะทั่วไปให้ดำเนินการได้ แต่ขอให้มีระบบมิดชิด และเมื่อเก็บใส่ถุงแล้วก็ให้พ่นฉีดฆ่าเชื้อ ใส่ถุงแล้วก็นำขึ้นไปในรถนำไปที่ห้องเย็นที่บ้านคำบอนแล้วก็จะมีบริษัทมารับไปกำจัด ซึ่งเป็นสถานที่แยกกำจัดขยะติดเชื้อ จะไม่รวมกับขยะทั่วไป ”
นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ยังกล่าวต่อว่า ปัญหาที่พบขณะนี้คือ จำนวนคนเก็บขยะไม่เพียงพอในการจัดเก็บ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ ขยะจากบ้านเรือนที่เป็น โฮมไอโซเลชั่นซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนโรงแรมที่ปรับมาเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งในส่วนนี้ก็มีการประสานว่าการรวบรวมขยะติดเชื้อที่ถูกต้องควรจะดำเนินการอย่างไรตามมาตรฐานด้านอนามัย ซึ่งทางโรงพยาบาลสนามทุกแห่งก็รู้วิธีการปฏิบัติดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหามากก็สามารถดำเนินการได้ สำหรับแนวทางในการป้องกันเจ้าหน้าที่ที่ต้องเก็บขยะทุกวันนั้น ทางเทศบาล ได้มีการมอบชุดรวมถึงถุงมือ และมีมาตรการวิธีการดำเนินการ โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกก็คือพนักงานที่เก็บขยะทั่วไปก็มีวิธีการอธิบายและให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ขณะนี้พบว่าคนงานของเทศบาลซึ่งเป็นพนักงานจัดเก็บขยะเฉลี่ยต่อคนจะต้องเก็บขยะต่อคนโดยเฉลี่ย 1.8 ตันต่อคน ซึ่งจะมีปัญหาหากใส่ชุด ppe เก็บขยะ วันละ 1.8 ตัน แต่ปกติถ้าไม่สามารถใส่ได้ก็ต้องมีถุงมือมีรองเท้า ซึ่งทางเทศบาลก็สนับสนุนเต็มที่โดยเฉพาะมาตรฐานตรงนี้ทางหัวหน้างานหัวหน้าฝ่ายก็มีการดูแลอย่างเข้มงวด
สำหรับขยะติดเชื้อค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ทางเทศบาลเป็นผู้รับผิดชอบ หากเป็นแต่ก่อนขยะติดเชื้อจากสถานประกอบการทั่วไป ก็คิดค่าใช้จ่ายกับสถานประกอบการ แต่พอมีกรณีของโรงพยาบาลสนามค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเทศบาลก็ต้องรับผิดชอบไป โดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งวัน จากเดิมวันละ 300 กิโลกรัมก็เพิ่มเป็นวันละ 1,000 กิโลกรัม จะมีค่ากำจัดเพิ่มขึ้นเทศบาลก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นการดูแลซึ่งกันและกันจึงไม่สามารถที่จะไปเรียกร้องกับใครได้
โดย - พรพรรณ เพ็ชรแสน