จากกรณีโลกออนไลน์พากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า ภรรยา ผอ.โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา และสามีหัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรม ของ รพ.ดังกล่าว ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งที่ไม่ได้เป็นบุคลากรด่านหน้า จนภายหลัง นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา (อ่านต่อรายละเอียด)
ล่าสุดวันนี้ (17 ส.ค.) นพ.วิชาญ คิดเห็น รองสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นการทำผิดเงื่อนไขกฎเกณฑ์ของสาธารณสุขจังหวัดชัดเจน โดยทั้ง 2 คน ทำงานในคลินิกเอกชนและร้านขายยา ยังไม่เข้าเกณฑ์เป็นบุคลากรด่านหน้า
ซึ่งการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ของ จ.นครราชสีมา ล็อตแรก 15,000 โดส กำหนดให้ฉีดเฉพาะบุคลากรด่านหน้าเท่านั้น ยังไม่รวมคลินิกเอกชน และร้านขายยา ซึ่งกลุ่มหลังนี้อาจจะนำมาพิจารณาจัดสรรให้ในล็อตที่ 2 อีก 5,000 โดส แต่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ นำไฟเซอร์ล็อตแรกไปฉีดให้ภรรยา ผอ.โรงพยาบาล และสามีหัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมนั้น ถือว่าผิดเงื่อนไข หลังจากนี้จะเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงให้รู้ผลเร็วที่สุดภายใน 3 วัน ก่อนพิจารณาบทลงโทษทางวินัย
"สำหรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์จำเป็นต้องทำตามเงื่อนไขกฎเกณฑ์ แม้แต่ตนเองในฐานะประธานกรรมการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จ.นครราชสีมา ก็ยังไม่ได้รับการฉีดไฟเซอร์ แต่ยอมรับว่าวัคซีนไฟเซอร์เปรียบเสมือนสายล่อฟ้า อาจได้รับไม่ทั่วถึง วัคซีนมีน้อย แต่ความต้องการมีมาก อีกทั้งสาธารณสุขโคราช ยังถูกแรงกดดันจากกลุ่มวีไอพี ที่มีการร้องขอมาจำนวนมาก แต่จำเป็นต้องจัดสรรให้บุคลากรด่านหน้าก่อน"