โฆษกกระทรวงต่างประเทศเนปาล เปิดเผยว่า ได้แจ้งไปยังสถานทูตของรัฐบาลชาติต่างๆเพื่อขอให้อพยพพนักงานชาวเนปาลราว 1,500 คนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับสถานทูต และทำงานร่วมกับองค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติในอัฟกานิสถาน
และรัฐบาลนิวซีแลนด์เตรียมส่งเครื่องบินลำเลียง ซี-130 เฮอร์คิวลิสของกองทัพไปยังอัฟกานิสถานเพื่ออพยพพลเมืองนิวซีลแนดื 53 คนและชาวอัฟกันอีกหลายสิบคนและครอบครัวที่ทำงานให้กับทหารนิวซีแลนด์ที่ประจำการในอัฟกานิสถาน
ส่วนสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียอพยพเจ้าหน้าที่และนักการทูตทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานแล้ว และกว่า 60 ประเทศออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในอัฟกานิสถานอำนวยความสะดวกให้พลเมืองต่างชาติและชาวอัฟกันที่อยากออกนอกประเทศ สามารถอพยพได้อย่างปลอดภัย
ส่วนสถานการณ์ที่สนามบินในกรุงคาบูล มีชาวอัฟกันหลั่งไหลไปสนามบินเพื่อพยายามขึ้นเครื่องบินหนีออกนอกเมือง จนเกิคดวามวุ่นวายทำให้ทหารสหรัฐฯต้องยิงปืนเตือนขึ้นฟ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ฝูงชนวิ่งไปยังรันเวย์
ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายที่สนามบิน และผู้เห็นเหตุการณ์บางคน บอกว่า ไม่แน่ใจว่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้เสียชีวิตเนื่องจากกระสุนปืน หรือ การเหยียบกัน
ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนอัฟกานิสถานแนะนำให้เครื่องบินที่จะแวะผ่านคาบูลปรับเปลี่ยนเส้นทาง และท่าอากาศยานคาบูล แจ้งว่า เที่ยวบินพาณิชย์ออกจากสนามบินฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูลทุกเที่ยวถูกยกเลิกเพื่อป้องกันการปล้นสะดม และขอให้ประชาชนอย่าแห่ไปที่สนามบิน
ล่าสุดสายการบินขนาดใหญ่หลายแห่งเช่น ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, บริทิช แอร์ไลน์ และเวอร์จิน กาแล็กติกปรับเส้นทางบินเพื่อหลีกเลี่ยงน่านฟ้าของอัฟกานิสถานแล้ว และสายการบินเอมิเรสต์ระงับเที่ยวบินไปยังกรุงคาบูลทั้งหมดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง