svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เจ้าอาวาสวัดพันอ้นแจ้งความจับ “ชวน หลีกภัย”

08 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงใหม่ – เจ้าอาวาสวัดพันอ้น กลางเมืองเชียงใหม่ แจ้งความจับ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา พ่วง ส.ส.และส.ว. ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังนำเสนอร่างกฏหมายลูกคุ้มครองพระพุทธศาสนา แต่สภาไม่รับพิจารณา

วันที่ 8 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาทุกคน ในฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

 

สืบเนื่องจากพระครูอมรธรรมทัต ได้มีการไปยื่นหนังสือเป็นร่างกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา ให้กับนายชวน หลีกภัย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ทางสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้มีการนำร่างกฎหมายเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 2 มีหนังสือตอบกลับมาที่พระครูอมรธรรมทัต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ว่าในรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้มีการบัญญัติกฎหมายมาตรา 67 ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆเอาไว้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องนำร่างกฏหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพระครูอมรธรรมทัต เข้าสู่การพิจารณา

เจ้าอาวาสวัดพันอ้นแจ้งความจับ “ชวน หลีกภัย”

พระครูอมรธรรมทัต กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า พระพุทธศาสนา ถูกบ่อนทำลายและสร้างความเสื่อมเสียจากทั้งคนในศาสนาและนอกศาสนามาโดยตลอด ที่ผ่านมาหากมีการกระทำผิดวินัยสงฆ์ที่ทำให้พระพุทธศาสนาเกิดภาพลักษณ์เสียหาย เช่นพระภิกษุแอบดื่มสุราในวัด สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแล้วนำตัวไปให้เจ้าคณะอำเภอหรือเจ้าคณะตำบล จับสึกออกจากการเป็นพระภิกษุ แต่สุดท้ายไม่มีกฎหมายบ้านเมืองเอาผิดบุคคลดังกล่าวต่อ และอีกกรณี คือ การเสพเมถุนของพระภิกษุหรือสามเณร ที่ผลสุดท้ายมักจะลงเอยเช่นเดียวกับกรณีการดื่มสุรา คือการจับสึกถือเป็นที่สิ้นสุด แต่ไม่มีกฏหมายบ้านเมืองดำเนินคดี รวมถึงการที่ชาวต่างชาติทั้งหญิงและชาย มีการสักรูปพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธรูปไว้บนร่างกาย หากอยู่บนแขนหรือแผ่นหลัง ยังพอรับได้ แต่บางคนมีการสักอยู่ใกล้ของลับ บริเวณต้นขา หรือต่ำกว่าเอวลงไปถือเป็นการหมิ่นศาสนาพุทธ แต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากเจ้าหน้ที่ตำรวจอ้างว่าเป็นศิลปะ

 

ในอดีตเคยมีการไปแจ้งความเกี่ยวกับการหมิ่นพระพุทธศาสนา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าดำเนินคดีไม่ได้ เนื่องจากว่าไม่มีกฎหมายลูกมารองรับ กฎหมายมาตรา 67 รวมถึงผู้พิพากษาที่เคยมาทำบุญที่วัด ได้กล่าวเช่นเดียวกันว่าการดำเนินคดีทำได้ยากเพราะไม่มีกฎหมายลูกมารองรับ จึงได้มีการนำหนังสือกฎหมายรัฐธรรมนูญมาเปิดอ่านและศึกษา รวมถึงหนังสือความรู้ด้านกฎหมายต่างๆ ค่อยๆเขียนร่างกฎหมายลูกฉบับนี้ขึ้น จากนั้นได้มีการนำไปให้ทนายและผู้พิพากษา ที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำช่วยอ่านและแก้ไขในจุดที่ไม่ถูกต้อง จนได้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวที่สมบูรณ์

เจ้าอาวาสวัดพันอ้นแจ้งความจับ “ชวน หลีกภัย”

พระครูอมรธรรมทัต กล่าวต่อว่า สำหรับกฎหมายลูกของมาตรา 67 ฉบับนี้ สามารถคุ้มครองพระพุทธศาสนาได้ในทุกเรื่อง และสามารถเป็นต้นแบบให้ศาสนาอื่นๆ นำไปปรับใช้เพื่อคุ้มครองศาสนาของตนเองได้

 

ประเด็นหลักของร่างกฏหมายลูกฉบับนี้ คือ การออกกฎหมายดำเนินคดีกับผู้ที่ใช่ศาสนาในการกระทำผิดเช่น เสพเมถุนหรือดื่มสุรา เมื่อสึกแล้วจะต้องรับโทษจำคุกหรือโทษปรับ นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับผู้ที่มาร่วมกระทำความผิดกับพระด้วยเช่นสีกาหรือชายหนุ่ม ที่มาเสพเมถุนกับพระ หรือดื่มสุรากับพระ

 

นอกจากนี้ร่างกฎหมายลูก ยังครอบคลุมถึงการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของวัดต่างๆว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ และยังมีกฎหมายเอาผิดผู้ที่นำศาสนาไปเป็นข้ออ้างในการกระทำผิด เช่น การเรื่อไรเงินทำบุญจากญาติโยม โดยไม่มีเหตุจำเป็น การใช้ศาสนสถานในการฉ้อโกงประชาชน และการบิดเบือนหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เพื่อใช้ในการกระทำผิดกับประชาชน แต่เมื่อเสนอไปทางประธานรัฐสภาแต่ไม่รับพิจารณา จึงจำเป็นต้องแจ้งความฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามาตรา 157

เจ้าอาวาสวัดพันอ้นแจ้งความจับ “ชวน หลีกภัย”

 

logoline