วันนี้ (3 ส.ค.64)พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี แพทย์หญิงสุวณี รักธรรม รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดอกมะลิ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจําปี 2564
ขณะที่วาระที่น่าสนใจในวันนี้ เตรียมพิจารณาโยกย้ายข้าราชการะดับสูงของกระทรวงมหาดไทย แทนตำแหน่งที่เกษียนราชการ ทั้งตำแหน่งปลัดกระทรวง รองปลัด อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคาดการณ์ว่านายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่มีความอาวุโสสูงสุด เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ แทนนายฉัตรชัย พรมเลิศ ปลัดกระทรวงที่จะเกษียนอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ ให้นายนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีการพัฒนาชุมชน และแต่งตั้งนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ทั้งนี้มีการพิจารณาโยกย้ายผู้ตรวจราชการอีกหลายคน ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแทนตำแหน่งที่เกษียนราชการในปีนี้ และคาดการณ์ว่าจะให้นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เข้ากระทรวงดำรงตำแหน่งเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ย้ายผู้ว่าหมูป่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
นอกจากนี้ยังพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศคำสั่งล็อกดาวน์เพิ่มอีก 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการเยียวยาประชาชนให้ครอบคลุม ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวดเร็ว โดยแนวทางเยียวยาทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเสนอคณะรัฐมนตรี ผ่านสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และให้กระทรวงแรงงานเป็นผู้จ่ายแก่ผู้ประกันตน ซึ่งเบื้องต้นแนวทางการเยียวยาประกันสังคมในพื้นที่ประกาศล็อกดาวน์ 29 จังหวัด เป็นไปในทิศทางเดียวกับการเยียวยาประชาชน 9 กลุ่มกิจการ ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่กำหนดแนวทางเยียวยาไปก่อนหน้านี้ โดยในส่วนของ 10 จังหวัดแรกที่ประกาศล็อกดาวน์ ผู้ประกันตนมาตน 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 9 กลุ่มกิจการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดกิจการ สถานที่ จะได้รับเงินเยียวยา 2,500-5,000 บาท
ในส่วนของประชาชนในพื้นที่ 13 จังหวัดแรกที่ล็อกดาวน์ไปช่วงเดือน ก.ค. แล้วเป็นเวลา 1 เดือน รับเงินก้อนแรกแล้ว ต้องมีการพิจารณาเยียวยาต่ออีก 1 เดือน เนื่องจากมีการขยายเวลาล็อกดาวน์ ไปอีก 1 เดือน ตามแนวทางกลุ่มนี้จะได้รับเงินเยียวยาเพิ่มอีก 1 เดือน ซึ่งทางสภาพัฒน์ฯ จะนำเข้า ครม. โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ประกาศล็อกดาวน์ด้วย
อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามดูว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบประชาชน รวมทั้งแนวทางในการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม การเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยติดเชื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มสีเหลือง และสีแดง หลังมีผู้ป่วยอาการหนักรอเตียงจนเสียชีวิตที่บ้าน และข้างถนน ที่ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ว่ารัฐบาลจะมีการบริหารจัดการในสถานการณ์นี้อย่างไร โดยเฉพาะการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อกดดันและขับไล่รัฐบาลจากกลุ่มต่างๆ ต่อเนื่อง