svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

แผนประทุษกรรมทุจริตงบสนามฟุตซอล-สนามฟุตบอลโกลหนู

07 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คดีทุจริตงบสนามฟุตซอล-สนามฟุตบอลโกลหนู ที่ป.ป.ช.ชี้มูล นายวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวก รวม 87คน และชี้มูล "ประสิทธิ์"ส.ส.เพื่อไทย ร่วมกับพวก 95 คน ทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอลโกลหนู ส.ส.เหล่านี้มีแผนประทุษกรรมงบประมาณแผ่นดิน อย่างไร?

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง มีการประชุมคดีพิจารณาสำนวนที่อัยการสูงสุด ฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับพวก รวม 87คนใน 14 ข้อหา เเตกต่างกันระหว่าง กลุ่มนักการเมือง กลุ่มเอกชน และกลุ่มข้าราชการ
 

กรณีของนายวิรัช และจ.นครราชสีมา เป็นต้นเรื่องการตรวจสอบ โดยจังหวัดต่อมาคือเชียงใหม่ ที่ป.ป.ช.ชี้มูล นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย

 

กรณีกล่าวหานายประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 กับพวก รวม 95 คน ทุจริตโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ฟุตบอลโกลหนู สตรีทซอคเกอร์ (สนามหญ้าเทียม) นายนิวัติไชย เกษมมงคล โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564

 

แผนประทุษกรรมของผู้ถูกกล่าวหาคือ ปีงบประมาณ 2556 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ 15 แห่ง จัดทำโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ฟุตบอลโกลหนู สตรีทซอคเกอร์ (สนามหญ้าเทียม) 15 แห่ง งบประมาณรวม 30,000,000 บาท 

 

โครงการนี้ เป็นนโยบายของภาครัฐในการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อที่จะสามารถพัฒนาและแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 

 

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจากสำนักงบประมาณ สำหรับพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีเร่งด่วน ปีงบประมาณ 2556 โครงการก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ในเขตอำเภอฝาง จำนวน 19,935,000 บาท  และอำเภอแม่อาย 12,548,000 บาท

จากการไต่สวน นายประสิทธิ์ ได้นำกลุ่มบริษัทของน.ส.อัมพวัน แก้วนพมาศ เข้าเป็นคู่สัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย โดยนายประสิทธิ์ ได้เรียกรับเงินตอบแทนจากกลุ่มบริษัทของนางสาวอัมพวัน ร้อยละ 25 ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร เป็นเงิน 7.5 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ ได้จัดให้มีการประชุมผู้บริหารท้องถิ่นที่จะได้รับจัดสรรงบประมาณทั้ง 15 แห่ง ในที่ทำการนายประสิทธิ์ ได้กำหนดให้ใช้คุณลักษณะเฉพาะและราคากลางการก่อสร้างที่น.ส.อัมพวัน ซึ่งได้ร่วมกับน.ส.วฐิตารีย์ ศิริคะเณรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองย่า อินเตอร์เทรด จำกัด กำหนดคุณลักษณะเฉพาะความยาวของใบหญ้าเทียม 6 เซนติเมตร ซึ่งโดยทั่วไปความยาวของใบหญ้าเทียมจะมีความยาวเพียง 5 เซนติเมตร และกำหนดให้ผู้ยื่นเสนอราคาต้องนำตัวอย่างหญ้าเทียมที่มีความยาว 6 เซนติเมตร ขนาด 1 ตารางเมตร พร้อมหนังสือรับรองจากผู้ผลิตหรือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายไปแสดงกับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่ง ในวันที่มีการยื่นซองเสนอราคาด้วย

 

และกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของแผ่นพื้นหญ้าเทียม จำนวนรวมการทอฝีเข็มไม่น้อยกว่า 12,000 ฝีเข็มต่อตารางเมตร ซึ่งผู้ประกอบการทั่วไปจะมีพื้นหญ้าจำนวนการทอฝีเข็มไม่น้อยกว่า 8,000 ฝีเข็มต่อตารางเมตรเท่านั้น และกำหนดให้มีการเคลือบกาวพียู ซึ่งผู้ประกอบการโดยทั่วไปจะไม่มีการเคลือบกาวดังกล่าว จึงเป็นการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะที่เป็นการกีดกันผู้เสนอราคาอื่นให้ไม่สามารถเข้ายื่นเสนอราคาได้  

 

นอกจากนี้ ในขั้นตอนการยื่นเสนอราคา น.ส.อัมพวัน ร่วมกับน.ส.ฐิตารีย์  ได้นำกลุ่มบริษัทของตนเองประกอบด้วย บริษัท แก้วเก้า คอนแทร็คติ้ง จำกัด, บริษัท อาร์. เค. คอนแทรคติ้ง จำกัด, บริษัท แอลแอนด์บี เซอร์วิส จำกัด, บริษัท เมืองย่า อินเตอร์เทรด จำกัด และบริษัท ไทยเวิลด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด ซึ่งมีความสัมพันธ์ในเชิงทุนและเครือญาติ เข้ามาเสนอราคา อีกทั้งกลุ่มบริษัทเอกชนดังกล่าว ได้นำเงินไปให้นายสมบูรณ์ ถากาศ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัทเอกชนดังกล่าว เพื่อให้นำไปจ่ายให้แก่เอกชนอื่นที่เข้ามาซื้อหรือรับซองเสนอราคา เพื่อไม่ให้เอกชนรายอื่นเข้ายื่นเอกสารการเสนอราคาต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในโครงการ 

 

ปรากฏว่าหลังจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 15 แห่ง ได้รับจัดสรรงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว กลุ่มบริษัทน.ส.อัมพวัน ได้วงเงินตามสัญญาที่สูงกว่าความเป็นจริง เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 15 ล้านบาท อีกทั้งปรากฏข้อเท็จจริงต่อมาว่าน.ส.อัมพวัน ได้จ่ายเงินให้กับนายประสิทธิ์ ครบจำนวน 7.5 ล้านบาท ตามที่ได้ตกลงไว้ 

 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้ 

 

1.การกระทำของนายประสิทธิ์  มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 5 และมาตรา 13 

 

2.การกระทำของผู้บริหารท้องถิ่น ประกอบด้วยนายกเทศมนตรีและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอฝางและอำเภอแม่อาย 10 ราย ซึ่งไปร่วมประชุมกับนายประสิทธิ์ และนำเอกสารที่ได้จากการประชุมมากำหนดคุณลักษณะและราคากลาง รวมทั้งเห็นชอบในการกำหนดคุณลักษณะและราคากลาง ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 

 

3.การกระทำของคณะกรรมการกำหนดราคากลาง 21 ราย ซึ่งเป็นผู้นำเอกสารของกลุ่มน.ส.อัมพวัน ร่วมกับน.ส.ฐิตารีย์ กับพวก ที่ได้จากการประชุมของนายประสิทธิ์ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 อีกทั้งยังมีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง 

 

4.กรณีกลุ่มเอกชน 6 ราย ซึ่งมีความสัมพันธ์ในเชิงทุนและเครือญาติ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162(1)(4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ตามมาตรา 123/1 แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ. 2542 ประกอบพ.ร.บ.ป.ป.ช. 2561 และมาตรา 192 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86  

 

โฆษกป.ป.ช.แถลงด้วยว่า ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิพากษาคดีกับนายประสิทธิ์  วุฒินันชัย กับพวก และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการกับผู้ถูกกล่าวหาแล้วแต่กรณีต่อไป

 

ส่วนคดีของ นายวิรัช นางทัศนียา นงรัตนเศรษฐ และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ 3 ส.ส.พลังประชารัฐ องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกานักการเมือง พิจารณาสำนวน เเล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้อง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ทันที

 

จำเลยมีความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐทุจริตในการร่วมกันออกแบบ กำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม,
เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยรัฐ หรือกระทำการใดๆ โดยมิได้มุ่งหมายแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

 

เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร่วมกระทำความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ, เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด 

 

รู้หรือมีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยรัฐ เพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับเสนอราคาในครั้งนั้น

 

เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ

 

เป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ทำเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสารในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น หรือว่ากระการอย่างใดต่อหน้าที่ของตนอันเป็นเท็จ, ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสได้เสนอราคาอย่างเป็นธรรม, ตกลงร่วมกันเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใด เป็นผู้มีสิทธิในการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม, ร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอม,ร่วมกันปลอมเอกสาร

 

ร่วมกันใช้เอกสารปลอม, สนับสนุนเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าพนักงานของรัฐในการทำหน้าที่โดยทุจริต, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10, 11, 12, 13, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162, 264, 265, 268, 83, 86, 91 ในคดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

คดีนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมชี้มูลความผิดนายวิรัชสมัยเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันกับพวก รวม 87 คน ทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ.2555 จัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4,459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.นครราชสีมาด้วย แต่ปรากฏว่าการสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา กลับสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถใช้งานได้

 

ข่าว: เกวลี ปลัดกอง

logoline