svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

บิ๊กตู่ สั่งสภาพัฒน์ทำแผนเยียวยาทุกภาคส่วน เพิ่มจุดคัดกรองทุกพื้นที่

09 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“บิ๊กตู่” กำชับ สภาพัฒน์ดูแลเยียวยาทุกภาคส่วนให้เหมาะสม ย้ำ การสื่อสารต้องไม่ให้สับสน และต้องมีคณะกรรมการชี้แจง หวั่นเฟคนิวส์ทำปั่นป่วน พร้อมลุยตรวจสอบคัดกรองเชิงรุกเพิ่มขึ้นทุกจุด-ทุกพื้นที่ ย้ำดูแลคนทุกคนบนแผ่นดิน ระบุ ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน

วันนี้ (9 ก.ค.64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) เป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในที่ประชุมว่า มาตรการเยียวยาจะต้องดูแลทุกภาคส่วนให้เหมาะสม โดยมอบหมายสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด และย้ำว่าการสื่อสารต้องไม่ให้สับสนอลหม่าน นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมี ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน(Emergency Operation Center, EOC) และมีคณะกรรมการต้องชี้แจงเฉพาะเรื่องตามอำนาจหน้าที่ ขณะที่ศบค. ก็มีอำนาจหน้าที่ชัดเจน จึงให้ตระหนักว่าเราทุกคนคือ"ทีมประเทศไทย"

 

พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้กำชับทุกภาคส่วนในการตรวจสอบคัดกรองเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและต้องมีเพิ่มขึ้นทุกจุด ทุกพื้นที่ รวมถึงจุดตรวจของเอกชนและสาธารณสุข ขณะที่ในส่วนของโรงพยาบาลสนาม ได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่แรก โดยต้องเร่งดำเนินการศูนย์คัดกรองและให้มีการประกาศไปเลยว่ามีที่ไหนบ้าง เป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมการยกระดับเตียงโดยการบริหารจัดการเพิ่มและรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ โดยจัดหาให้ครบทุกกลุ่ม รวมถึงแพทย์เกษียณและนักศึกษาแพทย์

 

สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงจะต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น โดยยืนยันจะต้องดูแลทุกคนบนแผ่นดินไทย ส่วนการกำหนดจำนวนวัคซีนให้สอดคล้องกับจำนวนคนที่ต้องเร่งฉีด พร้อมกันนี้ให้เตรียมhome isolation โดยต้องเตรียมอุปกรณ์จัดหาให้พร้อม สิ่งสำคัญที่สุดต้องร่วมมือด้วยความเข้าใจให้ทุกคนทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจในแนวทางเดียวกัน ขณะที่ด้านความมั่นคงได้สั่งการไปแล้ว เพื่อให้ทันสถานการณ์

นอกจากนี้ ขอให้สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์โลก โดยต้องให้ประชาชนรับรู้ว่าสถานการณ์ภายนอกยังไม่น่าไว้วางใจ อีกทั้งการลักลอบเข้าแดนต้องเพิ่มความเข้มงวดขึ้น  โดยตำรวจตระเวนชายแดนจะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านในการรับส่งกลับ อีกทั้งในส่วนของแรงงานต้องมีการลงไปสำรวจและขึ้นทะเบียน ไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาเด็ดขาด ต้องทำลายกระบวนการลักลอบ อีกทั้งต้องแก้ไขเฟคนิวส์ให้ได้ เพราะเป็นการสร้างความปั่นป่วน ย้ำว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ

 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวในที่ประชุม ศบค.มีมติเห็นชอบให้ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 2 เดือน คือ ส.ค.-ก.ย.นี้ โดยรายละเอียดมาตรการและผลการประชุม ศบค.จะมีการแถลงให้ทราบต่อไป

logoline