
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ 4 จุดรับซื้อพริกขี้หนูพันธุ์ดวงมณี หรือ "พริกเขียวหัวไทร" บริเวณ สหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด ,หอประชุมหมู่ที่ 4 ต.แหลม อ.หัวไทร ,อบต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ โดยมี นายสุชีพ คงตุก กำนันต.แหลม อ.หัวไทร ,นายเอกนัฐ สุทธิชล ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด , นายวีระ ศักดิ์ เขียวพะวงค์ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด และนายอนันต์ ถนอมสิน นายก อบต.ไสหมาก ร่วมให้การสนับสนุนพื้นที่
นายสัณหพจน์ กล่าวว่า การเปิดรับซื้อ "พริกเขียว" โดยตรงจากเกษตรกรในพื้นที่ อ.หัวไทร ,อ.เชียรใหญ่ ,อ.ปากพนัง ,อ.เฉลิมพระเกียรติ ,อ.ชะอวด และบางส่วนของอ.เมืองนครศรีฯ โดยร่วมกับ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.เขต 4 จ.สงขลา ในครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งในวันแรกมีการรับซื้อจากเกษตรกรแล้วจำนวน 30 ตัน ในราคา ก.ก.ละ 11 บาท
ทั้งนี้ตนได้ดำเนินการประสานพ่อค้ารับซื้อ "พริกเขียว" จากเกษตรกรแล้วจำนวน 25 ตัน ในราคากก.ละ 11 บาท (วันที่ 8 พ.ค.64) โดยจะเปิดรับซื้อเป็นเวลา 4 วัน มีราคารับซื้อคือ วันที่ 8 พ.ค. ราคากก.ละ 11 บาท ,9 พ.ค. ราคากก.ละ 12 บาท ,วันที่ 10 พ.ค. ราคากก.ละ 13 บาท , วันที่ 11 พ.ค. ราคากก.ละ14 บาท
สำหรับในวันนี้ (9 พ.ค.64) จะมีการปรับจุดรับซื้อในเหลือเพียง 2 จุด คือ บริเวณ สหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด และอบต.ไสหมาก เพื่อสะดวกต่อการคัดเลือกผลผลิต และคุณภาพให้ตรงตามมาตรฐานการส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย
โดยคุณภาพของพริกที่รับซื้อ จะต้อง 1. เปียกชื้นจากน้ำ หรือน้ำฝน 2.พริกต้องไม่เป็นโรคกุ้งแห้ง 3.พริกต้องมีความเขียวเกิน 90% โดยมีพริกแดงผสมไม่เกิน 10% 4. พริกต้องไม่เน่าเสีย 5.ต้องเป็นเกษตรกรจริง และมีบัตรประจำตัวให้ตรวจสอบ 6.เกษตรกรต้องคัดแยกผลผลิตใส่ถุงพลาสติกใส ขนาด 20x30 เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ (ถุงบรรจุสามารถเบิกได้ที่จุดรับซื้อ) บรรจุถุงละ 8 กก.
ขณะเดียวกันตนได้ประสานหน่วยงานจังหวัดทั้งเกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เพื่อขึ้นทะเทียนจำนวนผลผลิตของเกษตรที่รับซื้อแล้ว เพื่อให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลืออีก กก.ละ 5 บาท ตามมาตรการของกรมการค้าภายใน ซึ่งจากข้อมูลจะมีการจ่ายส่วนต่างราคา 5 บาทให้กับเกษตรกรภายในเวลา 3 วันทำการ
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น โดยขณะนี้ตนได้ประสาน องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) เพื่อร่วมวางแผนระยะยาว ในการเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้กับเกษตรกร เช่น การจัดตั้งห้องเย็นเพื่อเก็บรักษาผลผลิต หรือการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าต่อไป