29 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ต.อดิศักดิ์ ไชยสัตย์ สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เข้าจับกุมตัวนายเมธาสิทธิ์ วะริสาร อายุ 24 ปี ชาวอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนชยางกูร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี หลังสืบทราบว่านายเมธาสิทธิ์ เป็นคนร้ายที่ออกตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่
ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหลายเข้าแจ้งความว่ามีคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมฮู้ดออกตระเวนลักทรัพย์ตามหอพักในเขตเทศบาลนครอุบลราชธชานี ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี ลงพื้นที่สืบสวนด้วยตัวเองจนทราบเบาะแสรูปพรรณของคนร้านยที่ก่อเหตุ ประกอบกับข้อมูลจากพลเมืองดีในพื้นที่โครงการเซฟตี้โซนช่วยกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดของตนเอง จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นนายเมธาสิทธิ์ พักอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง ในซอยชยางกูร 20 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี
พ.ต.อ.ธนาพันธ์ พร้อมชุดสืบสวนสวนจึงได้วางแผนดักซุ่มจนพบนายเมธาสิทธิ์ ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกมาจากหอพัก เพื่อไปเติมน้ำมันภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ห่างจากหอพัก 500 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายเมธาสิทธิ์เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับหน้าถอดสีและให้การยอมรับว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่จริง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายเมธาสิทธิ์นำตรวจค้นในห้องพัก ซอยชยางกูร 20
จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นเสื้อผ้าที่นายเมธาสิทธิ์ใช้ในการก่อเหตุจำนวนหนึ่ง เครื่องปริ้นเตอร์ที่ถูกโจรกรรมา 1 เครื่อง บัตร ATM บัตรนักศึกษาของผู้เสียหาย อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนของกลางอื่นนายเมธาสิทธิ์อ้างว่าได้นำไปลงขายไว้ในเพจขายของมือสอง ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ขับมาก็เป็นรถที่โจรกรรมา ตรวจสอบเลขเครื่องพบเป็นของ นายโกวิทย์ วะสุรี อายุ 27 ปี แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 18 เมษายน จากหอพักในซอยสุขาอุปภัมถ์ ถนนแจ้งสนิท
ทั้งนี้นายเมธาสิทธิ์ ให้การว่าก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นช่างซ่อม- ขายมือถือที่ กรุงเทพฯ แต่มีปัญหาไม่สามารถที่จะส่งมือถือให้ลูกค้าได้ ลูกค้าจึงได้เอาชื่อนามสกุลไปโพสต์ ในโลกออนไลน์หลังจากนั้นก็ไม่สามารถขายได้อีกเพราะลูกค้าจะตรวจสอบประวัติการขายจากทางโซเชียลก่อน ทำให้ไม่มีใครที่กล้าซื้อ ไม่มีรายได้ทำให้ต้องผันตัวมาเป็นโจรลักทรัพย์ นำเงินที่ได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ เมื่อเงินหมดก็มาก่อเหตุอีก โดยทรัพย์สินที่เลือกจะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสามารถนำไปขายต่อได้ ไม่เลือกทรัพย์สินชิ้นใหญ่ส่วนรถจักรยานยนต์ ถ้าสบโอกาสเจอกุญแจสำรองก็จะเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปด้วย ส่วนการเข้าไปในห้องก็เรียนรู้จากยูทูบ ส่วนจำนวนครั้งที่ก่อเหตุจำไม่ได้
พ.ต.อ.ธนาพันธ์ กล่าวว่า ตนเองได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเสมอว่าให้คิดว่าประชาชนเปรียญเหมือนญาติของเรา ทรัพย์สินที่หายไปก็เปรียบเหมือทรัพย์สินของเราเช่นกัน ต้องให้ความสำคัญทุกคดีเพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ต้องติดตามคนร้ายให้ได้ ยิ่งในยุคที่มีวิกฤตโควิดต้องไม่ให้โจรเหล่านี้มาซ้ำเติมพี่น้องประชาชนได้ สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้ต้องยกให้เป็นผลงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีที่ให้ความร่วมมือ ให้เบาะแสจากกล้องวงจรปิด จนสามารถรู้ตัวคนร้ายและจับกุมได้ในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายเมธาสิทธิ์ว่า ลักทรัพย์หรือรับของโจร บุกรุกเคหะสถานในยามวิการ ซึ่งนายเมธาสิทธิ์ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา