ต้องใช้แผนสองหลังบั้งไฟไม่ทำงาน

ที่ วัดกุดเมืองฮาม ตำบลกุดเมืองฮาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ที่คณะกรรมการวัดได้กำหนดฤกษ์งามยามดี ในการประกอบพิธียกเสาเอก ในการที่จะเริ่มการก่อสร้าง องค์พระธาตุศรีปทุม เพื่อเป็นศาสนาสถานธรรม ของญาติโยมคนชาวพุทธ ขนาดสูง 69.5 เมตร ฐานกว้างแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 36 เมตร ประดิษฐานพระสารีริกธาตุ ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้รับมอบมาจากประเทศอินเดีย โดยมี พระครู ประดิษฐ์ วรการ เจ้าคณะตำบลกุดเมืองฮาม และเจ้าอาวาสวัด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส งานนี้จัดแบบนิวนอมอล เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 มีการตั้งจุดคักกรองให้เข้าวัดทางเดียว ต้องสามหน้ากากตลอดการร่วมงาน และเว้นระยะห่าง มีบริการจุดล้างมืออยู่ทั่ววัด ที่สำคัญกำหนดจำนวนผู้คนที่จะเข้าไปในบริเวณงานด้วย แต่สภาพอากาศร้อนมาก เทศบาลตำบลกุดเมืองฮามก็เลย นำรถดับเพลิงมาบริการฉีด รดน้ำทั่วบริเวณเป็นระยะๆ

พอมาถึงช่วงประทศเปิดงาน ประกอบพิธีผูกผ้าสามสี กับเสาเอกที่จะยกก่อสร้างองค์พระธาตุ ถวายดอกบัวศรีปทุม เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมาเปิดป้ายขนาดใหญ่ เพื่อที่จะให้เห็นภาพองค์พระธาตุที่จะสร้าง ก่อนยกเสาเอก ซึ่งได้เชิญประธานมาจุดบั้งไฟ ซึ่งชาวอีสาน หากฤกษ์มงคลก็จะต้องจุดบั้งไฟเพื่อถวาย แจ้งข่าวแก่ฟ้าดิน ก็วางแผนแรกเอาไว้ว่า เมื่อจุดบั้งไฟไปแล้ว บั้งไฟก็จะวิ่งไปตามลวดสลิง ไปจุดตัดลวดที่มัดป้าย ที่ม้วนเอาไว้ด้านบนโครง เพื่อปลดป้ายที่ม้วนเอาไว้ ให้กางตกลงมาด้านล่าง ก็จะเห็นป้ายภาพพระธาตุศรีปทุมได้อย่างชัดเจน แต่.... บั้งไฟไปไม่ถึงจุดตัดลวดที่มัดเอาไว้ ยุ่งล่ะสิครับ รออยู่นานสองนาน สุดท้ายเปิดแผนสอง แผนสำรอง ก็เจ้าหน้าที่ที่เตรียมเอาไว้ด้านหลังป้ายขนาดใหญ่นี่แหละครับ ปลดเองเลย แล้วค่อยๆ หย่อนเชือกที่ผูกมัดเอาไว้ ค่อยๆ คลายลงมาที่ละน้อย ๆ ป้ายภาพก็จะได้ค่อย ๆ ตกลงมา สุดท้ายป้ายก็จะลงมาเต็มโครงป้ายที่เตรียมเอาไว้พอดี แนบเนียนมากจริง ๆ ทุกคนโล่งอก ดีที่มีการเตรียมแผนสองแผนสำรองเอาไว้