svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"วันชัย" ชี้ หมดข้อกังวลมาตรา9 เชื่อไม่มีใครยื่นศาลรธน.

01 เมษายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วันชัย"ชี้ ข้อกังวลมาตรา9 หมดแล้วหลังกฤษฎีกาปรับแก้ เชื่อ ไม่มีสมาชิกรัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากผ่านชั้นกรรมาธิการวันนี้ไปได้ เกรงประชาชนมองว่าเตะถ่วง ระบุ พ.ร.บ.ประชามติเป็นกุญแจดอกแรกของการแก้รัฐธรรมนูญ

นายวันชัย สอนศิริ สมาขิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ภายหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขมาตรา 9 ร่าง พ.ร.บ.ประชามติว่า เท่าที่พิจารณาในเบื้องต้น ประเด็นสำคัญที่มีการปรับเพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ ข้อความใดๆต่างๆทั้งหมดที่มีความวิตกกังวลในมาตรา9 ว่าอาจจะมีปัญหาที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนได้ดูร่างในเบื้องต้นแล้ว เชื่อว่าข้อกังวลดังกล่าวน่าจะหมดไป การแก้ครั้งนี้เป้าประสงค์สำคัญจะไม่ไปแตะในมาตรา9เดิม ที่ให้อำนาจรัฐสภาและประชาชน เพียงแต่ปรับปรุงเสริมเติมให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ มาตรา166 และมาตรา 156 ที่กำหนดไว้ว่า รัฐสภาต้องประชุมร่วมกันได้มีเฉพาะ 16 เรื่องเท่านั้น

แต่เรื่องประชามติไม่มีในรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นเวลามาปรับในประเด็นนี้ก็ต้องให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญไม่ให้ขัดแย้ง แปลว่าให้อำนาจของรัฐสภาตามมาตรา9 ยังเดินไปได้ตามปกติ ตนเชื่อว่าเมื่อมีการถกแถลงทำความเข้าใจกันแล้ว ทั้งกรรมาธิการเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย ฝ่ายรัฐบาล ส.ส. ส.ว. วันนี้ตนเชื่อว่าแนวโน้ม พ.ร.บ.ประชามติน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี และไม่มีข้อวิตกกังวลอื่นใดทั้งสิ้น เท่าที่ตนพิจารณาในเบื้องต้น แต่เป็นธรรมดาที่ในชั้นกรรมาธิการจะต้องถกแถลงกันจนตกผลึกและในที่สุดหากหาข้อยุติกันไม่ได้ก็ต้องลงมติ แต่ส่วนใหญ่จะพยายามตกลงกันให้ได้ การลงมตินั้นใช้น้อยมาก แต่จะพยายามใช้ข้อตกลงที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน


เมื่อถามว่าเมื่อมีการปรับแก้ให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญแล้วเชื่อว่าจะไม่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกใช่หรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า หากไม่มีการปรับแก้ให้สอดรับอาจจจะมีบางคนไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีการปรับแก้และอธิบายแล้วว่าจะไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าคงไม่มีใครไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเกรงว่าประชาชนจะมองว่าเป็นการเตะถ่วงยื้อเวลา แต่ทั้งนี้จะไปห้ามสมาชิกคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่ภาคประชาชนก็ยังมีสิทธิที่จะยื่นได้ หากเห็นว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้นประเด็นเหล่านี้โดยส่วนตัวและจากที่ได้มีการพูดคุยในที่ประชุมวิปวุฒิสภาไม่น่าจะมีประเด็นเหล่านี้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะไปยื่นหรือไม่ แต่เท่าที่ได้ทำความเข้าใจกันเบื้องต้นทุกฝ่ายยอมรับได้

ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าหากในวันนี้ชั้นกรรมาธิการสามารถตกลงกันได้ และหากเสียงข้างมากสามารถผ่านไปได้ เชื่อว่าในวาระ3 ก็จะผ่านไปได้ และจะประกาศใช้ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นกฎหมายของรัฐบาล และประการต่อมาที่มีการพูดคุยกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ บางมาตราจะต้องใช้ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ดังนั้นการมีกฎหมายฉบับนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของกุญแจดอกแรกที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่ากรณีที่กฤษฎีกามีการปรับแก้อย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายวันชัย กล่าวว่า เท่าที่ตนได้อ่านแล้วเป็นทั้งกระบวนการ ขั้นตอนและวิธีการในการที่จะดำเนินการ เพราะในมาตรา9 ที่เติมเข้ามาไม่ได้บอกถึงวิธีการ กระบวนการ แต่เมื่อปรับแก้แล้วจะบอกถึงขั้นตอนวิธีการและสุดท้ายจะต้องเดินไปจุดใดที่จะไม่ให้ขัดมาตรา166 เพราะฉะนั้นรายละเอียดตรงนี้เป็นสิ่งที่เติมเข้ามาและทำให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญที่สุดคือการลดข้อขัดแย้งแต่ละมาตราให้สามารถไปด้วยกันได้

logoline