29 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากสาวรายนี้ ว่ามีอดีตแฟนเป็นตำรวจ และได้เลิกรากันมานานนับปีแล้ว แต่สุดท้ายฝ่ายชายไม่ยอมเลิกรา บุกปีนเข้าในบ้านพังทำลายข้าวของภายในบ้านเสียหาย และลากตัวเธอที่พยายามวิ่งพบหนีเข้าไปในห้องภายในบ้าน เพื่อทำร้ายร่างกายเธอจนได้รับบาดเจ็บ จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพิ่มเติม เพื่อให้มีการเร่งดำเนินการเอาผิดกับ ส.ต.อ.รายนี้ ให้ถึงที่สุด หลังจากที่มีการเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้วที่ สภ.เมืองชัยภูมิ มาตั้งแต่เมื่อเวลา 16.30น.ของวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า
โดย น.ส.เอ อายุ 33 ปี นามสมมุติ ชาวอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากได้เข้าพบ ร.ต.ท.หญิง พิมทิชา มีทองหลาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ว่ามีนายตำรวจ ยศ ส.ต.อ. สังกัดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นอดีตแฟนหนุ่มที่เลิกรากันไปกว่า 1 ปีแล้ว แต่อดีตแฟน ตร.รายนี้ ยังไม่ยอมเลิกรา บุกมาจอดรถหน้าบ้านและปีนเข้ามาในบ้านก่อนโทรหาเธอเองว่าอยู่ไหน และได้ถีบประตูและพังข้าวของภายในบ้านเสียหาย ก่อนที่จะบุกเข้ามาลากตัวเธอที่พยายามวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำในบ้าน ก่อนลากมาทำร้ายร่างกายเธอจนได้รับบาดเจ็บก่อนหนีออกจากบ้านไป จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานภาพจากวงจรปิดของบ้าน เดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอฝากวิงวอนฝ่านสื่อมวลชนให้ช่วยติดตามคดีขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมในครั้งนี้ขึ้นด้วยอีกทาง
โดยสาวรายนี้ ระบุว่า ได้เลิกรากับแฟนหนุ่มรายนี้ไปนานได้นับ 1 ปีแล้ว หลังคบกันมาเพียง 8 เดือน จนกระทั้งช่วงเดือนที่ผ่านมาทางญาติของ ส.ต.อ.รายดังกล่าวได้เสียชีวิต ตนเองก็เคยสนิทสนมกันจึงเดินทางไปร่วมงาน และได้พบกับ ส.ต.อ.รายดังกล่าว ก็ได้เรียกให้มาถ่ายรูปคู่กับตนหน้างานศพปกติ เพราะเป็นอดีตแฟนและก็คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนต่อกันได้ เพราะว่า ส.ต.อ.รายนี้ได้มีแฟนใหม่ไปแล้ว และที่ผ่านมาเขาก็มีแฟนใหม่ไปเรื่อยและชอบทำร้ายตนเองมาแล้วเช่นกัน จนเป็นสาเหตุที่เลิกรากันครั้งนี้ซึ่งก็คิดว่าน่าจะจบกันด้วยดีแล้ว แต่มาครั้งนี้คิดว่าอยากขอกลับมา ถ้าผู้หญิงรายไหนไม่ยอม ไม่พอใจใคร ก็จะมาบุกปีนเข้าบ้านของคนนั้นคนนี้มาทำลายข้าวของจนเกิดความเสียหายและทำร้ายร่างกายตนเองได้รับบาดเจ็บ จึงยอมให้ทำอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ก่อนที่ น.ส.เพ็ญนภา จะพาผู้สื่อข่าวเดินดูภายในบ้านที่ได้รับความเสียหาย และบริเวณร่องรอยที่ถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมเล่าว่าเหตุการณ์ว่า ตนเองไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับคนอื่นอีก อยากให้ผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทำร้ายร่างกายออกมาปกป้องชีวิตลูกผู้หญิงด้วยกันด้วย ไม่ใช่คิดจะมาก็มา จะทำอะไรแบบนี้ได้อีก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด