แพร่ - หนุ่มใหญ่เมืองแพร่ ตั้งวงดื่มเหล้าหน้าบ้าน 3 คน จู่ๆเด็กรุ่นน้องเข้ามาหาเรื่อง พร้อมกับชกต่อย ยกมือไหว้ขอร้องไม่จบ ก่อนจะออกไป ไม่หนำใจกลับมาพร้อมสนับมือ หาเรื่องอีกรอบ สุดท้ายคู่กรณี 2 ราย คว้ามีดอีโต้ไล่ฟันจนเสียชีวิต
เมื่อเวลา 20.10 น.ของวันที่ 26 มีนาคม 2564 พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตุ้ยบุญมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับเหตุ ทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายที่บ้านเลขที่ 191/3 หมู่ 4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ จึงประสานสายตรวจตำบลทุ่งกวาวตรวจสอบ ร่วมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่และแพทย์จากกู้ชีพเวียงโกศัย
ที่เกิดเหตุเป็นถนนกลางหมู่บ้าน บริเวณรั้วหน้าบ้าน พบชายไม่สวมเสื้อ นอนจมกองเลือดมีบาดแผลบริเวณศีรษะ หลัง และแขน ถูกฟันด้วยของมีคม อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลแพร่อย่างเร่งด่วน ต่อมาทราบชื่อคนได้รับบาดเจ็บ คือ นายพรเทพ กาวงศ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206/1 หมู่ 1 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่
บริเวณในบ้านที่เกิดเหตุเป็นซุ้มหน้าบ้านมีชุดม้าหินอ่อน มีผู้ก่อเหตุ 2 ราย ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ นายพิชิต มาลัย อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/3 หมู่ 4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ และนายชาญชัย ชอบเลี้ยวรื่น อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202/3หมู่ 4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่พร้อมกับอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ คือ มีดอีโต้จำนวน 2 ด้าม
สอบถามนาย เอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ก่อนหน้านั้นประมาณ 19.00 น.ตนเอง และนายพิชิต มาลัย นายชาญชัย ชอบเลี้ยวรื่น นั่งดื่มเหล้ากันบริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านกัน 3 คน จู่ๆนายพรเทพ กาวงศ์ เดินเข้ามาหาเรื่องและชกต่อยนายชาญชัย และผลักอกนายพิชิต ซึ่งตนพยายามเข้าห้ามปรามยังถูกท้าตี ท้าต่อย พร้อมกับจะเข้ามาตีตน ซึ่งตนบอกว่าา "ผมไม่สู้" ขณะที่นายพิชิต ยกมือไหว้ และบอกไม่สู้ใครสักคน
แต่นายพรเทพไม่หยุด ยังบอกว่าให้เข้ามาเลยทั้ง 3 คน ทุกคนต่างงง และไม่มีใครเข้าใจก็เพราะอะไร นายพรเทพ จึงเข้ามาหาเรื่อง ตนเองเห็นท่าทีไม่ดีและคิดว่าสักพักนายพรเทพ คงไปดื่มเหล้าที่อื่นและจะต้องกลับมาหาเรื่องอีกเป็นแน่แท้จึงกลับบ้านไปก่อน จากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้านนางสุชาดา รัชอำนวยวงศ์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองไม่อยู่บ้านกลับมาเขาเล่าให้ฟังว่า นายพรชัย ผู้บาดเจ็บเข้ามาหาเรื่องก่อน รอบแรกเดินเข้ามาในบ้าน นายชาญชัย ชวนดื่มเหล้าด้วยกัน แต่นายพรชัย คว้าคอ แล้วชกเลย เมื่อถามว่ามทำร้ายร่างกายทำไม ก็ไม่ตอบและชกต่อ ขณะที่ นายพิชิต มาลัย ซึ่งอยู่ด้วยกัน ได้ยกมือไหว้ และพูดว่า "ขอเถอะ ไม่สู้เพราะสู้ไม่ไหว"จากนั้นเขาก็เดินกลับออกไป
ต่อมาไม่นาน นายพรชัยกลับมาโดยเอารถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านและเดินเข้าไปหา พร้อมสนับมือ เพื่อหาเรื่องจากนั้นผู้ต้องหาเห็นท่าไม่ดีว่าสู้ไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปคว้ามีดในบ้าน มาคนละ 1 ด้าม ช่วยฟัน และไล่มาถึงหน้าบ้าน อีกหลังหนึ่ง
ล่าสุด 2 ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และรับสารภาพว่าช่วยกันฟัน นายพรชัย จริง เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นายพรชัย ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลแพร่