22 มีนาคม 2564 ที่ สถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านกอกหวาน ที่มีบ้านอยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ ได้เดินททางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้กล่าวหา สำนักสงฆ์แห่งนี้ว่า ในช่วงการจัดงานปริวาสกรรม ตั้งแต่วันที่ 15-25 มีนาคม ได้เปิดเครื่องเสียงดัง รบกวนชาวบ้านในยามวิกาล ทำให้ชาวบ้านที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน เปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียง พร้อมกับพระสงฆ์ นำผู้ปฏิบัติธรรมเต้นตามจังหวะเพลง ซึ่งนับตั้งแต่จำความได้ ชาวบ้านที่เคยไปวัด เคยไปปฏิบัติธรรมไม่เคยพบเคยเจอเช่นนี้มาก่อน และนอกจากการเปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียงเต้นกันแล้ว ยังมีการเปิดเครื่องขยายเสียงเทศนาธรรมอันเผ็ดร้อน ถึงพริกถึงขิงโดยเฉพาะเรื่องกาม ส่อเสียดพระพุทธศาสนา
โดยมีช่วงหนึ่งที่กล่าวว่า พระพุทธเจ้าก็เกิดมาจากกาม ซึ่งทุกคนที่เกิดมาบนโลกมนุษย์ก็เกิดมาจากกามเช่นกัน โดยความเห็นของชาวบ้าน พระสงฆ์ไม่ควรพูดเรื่องเช่นนี้ แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม เพราะเป็นเรื่องทางโลก การเปิดสำนักสงฆ์จัดกิจกรรมปริวาสกรรม ก็ควรจะพูดเฉพาะเรื่องธรรมเท่านั้น แต่ชาวบ้านก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนเรื่องที่ยอมไม่ได้ก็คือ เปิดเครื่องเสียงรบกวนชาวบ้านในยามวิกาล จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้
ขณะเดียวกัน ที่สำนักสงฆ์วัดป่าเนื้อนาบุญ ซึ่งวันนี้หลวงตากรันยา ไม่ได้อยู่ที่วัด เนื่องจากได้รับการติดต่อให้ไปออกรายการสัมภาษณ์สด ทางทีวีช่องหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนไปได้ประชุมลูกศิษย์ที่เข้ามาปฏิบัติธรรม เพื่อให้ปฏิบัติตามว่า วันนี้ วัดเปิดต้อนรับทุกคนที่จะเดินทางเข้ามาวัดได้ เพื่อมาปฏิบัติธรรม ตามหลักปฏิบัติธรรมแบบสะเทินน้ำสะเทินบกดับวิญญาณ สลับกับการฟังธรรมะอยู่ที่วัด เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่เคยบังเกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ตามศาสนาพุทธ แต่ถ้าทุกคน เมื่อได้มาสัมผัสมาปฏิบัติจริง ภายในระยะเวลา 7 วัน หรือ 3 เดือน หรือ 1 ปี ทุกคนก็จะสำเร็จเป็นอรหันต์ เป็นอริยบุคคล เป็นบุคคลที่ปุถุชนคนทั่วไปต้องกราบไหว้บูชา
แต่ช่วงที่หลวงพ่อไม่อยู่นี้ ห้ามลูกศิษย์คนใดให้สัมภาษณ์ข่าวกับทุกคนที่จะเข้ามาวัด แต่ไม่ได้ห้ามคนที่จะเข้ามาถ่ายภาพ เข้ามาเยี่ยมชมวัดได้ โดยอ้างว่า เมื่อก่อนที่ปิด เพราะไม่อยากให้ใครมารบกวน ขณะที่อริยบุคคลกำลังปฏิบัติธรรม แต่ภายหลังจากตกเป็นข่าว จึงเปิดให้ทุกคนเข้ามาศึกษา หรือมาเรียนรู้ หรือมาร่วมปฏิบัติธรรมตามที่หลวงตากรันยากำหนดไว้ได้ โดยหากปฏิบัติได้กลายเป็นอริยบุคคลก็จะมีสิทธิ์สวมเสื้อสายรุ้ง นั้นหมายถึงผู้มีศีล 5 ครบถ้วนนั่นเอง