
18 มีนาคม 2564 ที่ที่พักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ คณะสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัด (ธ) เจ้าคณะอำเภอปรางค์กู่ เจ้าคณะอำเภอขุขันธ์ ได้เดินทางไปพบกับพระหัวหน้าสำนักสงฆ์ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่ได้มีกระแสข่าวออกไปเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นคลิปวิดีโอของทางวัดขณะที่ พระหัวหน้าที่พักสงฆ์ ได้ทำการเทศนาอบรมสั่งสอน ญาติโยมที่เข้ามาปฏิบัติธรรม กว่า 30 คน ในหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เน้นให้ปฏิบัติตามศีล 5 ซึ่งได้มีข้อผิดเพี้ยนออกไป
โดยเน้นให้สามารถเสพเมถุนขณะปฏิบัติธรรมได้ ประกอบกับได้มีสามีของผู้ที่เข้ามา ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัด พอภรรยาเดินทางกลับบ้านมีอาการที่เปลี่ยนไป ถึงพฤติกรรมการครองเรือนครองตนขณะอยู่บ้าน โดยปักใจเชื่อว่าการเสพเมถุนขณะปฏิบัติธรรมทำให้มีสมาธิและได้บุญเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่น่าจะเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และขณะที่เข้าไปดูคลิปที่ถ่ายไว้ใน Facebook ของทางวัด คำสั่งสอนที่เทศนาของหัวหน้า ที่พักสงฆ์ ที่ถูกถ่ายไว้มีคำพูดที่ล่อแหลมไปในทางผิดเพี้ยนเช่นกัน วันนี้จึงทำให้คณะสงฆ์และสำนักพุทธศาสนาจังหวัด ได้ลงมาทำความเข้าใจกับหัวหน้าที่พักสงฆ์ดังกล่าว
ภายหลังจากมีการพูดคุยหัวหน้าที่พักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ พบกับ หลวงตากรันยา ได้ชี้แจงว่าในการเทศนาคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ให้โยมปฏิบัติตามเน้นศีล 5 ส่วนในข้อ กาเมสุมิจฉาจารราเว ฯ นั่น คือแปลความหมายได้ว่า ห้ามประพฤติผิดในกาม ผิดผัวผิดเมียผู้อื่น หากมีคู่อยู่แล้ว ไม่ได้ห้ามในการเสพเมถุน มีความสุขทางกามารมณ์กับคู่รักสามีภรรยาของตนเองที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตนก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นความผิด เพราะห้ามไปผิดจารีตประเพณีเท่านั้น เมื่อกลับบ้านหากสามีคิดถึงก็สามารถกอดหอมแก้มมีเพศสัมพันธ์กันได้เป็นปกติ ไม่ได้ห้ามว่าถือศีล ห้านุ่งขาวห่มขาว แล้วห้ามนอนกับสามีภรรยาตนเอง ซึ่งอาจจะทำให้ครอบครัวแตกแยกได้
โดยพระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัด (ธ) ได้แนะนำให้หัวหน้าที่พักสงฆ์ดังกล่าวได้เปลี่ยนคำเทศนาบางช่วงบางตอนที่ส่อไปในทางที่ล่อแหลม หรือผิดเพี้ยนจากคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หากผู้เข้าใจก็ดีหากผู้ไม่เข้าใจก็จะเข้าใจผิด หากละเว้นได้ก็ควรจะละเว้นในการขยายคำสั่งสอนที่ผิดเพี้ยนไป ซึ่งหัวหน้าที่พักสงฆ์ก็ยอมรับในคำตักเตือนและจะปฏิบัติตาม โดยขณะนี้ที่ พักสงฆ์แห่งนี้ มีหัวหน้าคณะสงฆ์อยู่เพียงองค์เดียว นอกนั้นเป็นผู้ปฏิบัติธรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ราว 30 คน และโดยปกติจะห้ามบุคคลภายนอกผ่านเข้าไปในที่พักสงฆ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอ้างว่าเป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรม