svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบแล้ว "ไอ้โอ๋" คนร้ายข่มขืนแม่ชีขาขาด อ้างเมาเหล้าและยาบ้าจนขาดสติ

กองปราบร่วมกับตำรวจ ภ.3 ,ภ.4 ตามรวบ "ไอ้โอ๋" หลังก่อเหตุข่มขืนแม่ชีพิการ ภายในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้นจับตัวได้แล้ว แต่หลบหนีระหว่างเบิกตัวจากห้องขังสภ.หนองเรือ



17 มีค.64 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจขอนแก่นร่วมกันจับกุม นายอัจฉริยะ หรือ โอ๋ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมเเพ ที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2564 โดยกล่าวหาว่า "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นไม่สามารถขัดขืนได้" และหมายจับศาลจังหวัดชุมเเพ ที่ จ.21/2564 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2564 โดยกล่าวหาว่า "ลักทรัพย์"

จับกุม ได้ที่กระท่อมนาด้านทิศใต้สำนักปฏิบัติธรรม หมู่ที่ 8 ต.บ้านเม็ง อ.หนองรี จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 นางสมยาฯ (ผู้เสียหายพิการขาขาด) อายุ 79 ปี ซึ่งบวชและปฏิบัติธรรมอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรม ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ ว่าได้ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ตัดผมสั้น รูปร่างผอม ลักษณะคล้ายกับชายที่มาทำสวนปลูกพืชห่างจากสำนักปฏิบัติธรรมไปประมาณ 300 เมตร บุกเข้ามาภายในห้องพักในสำนักปฏิบัติธรรม และข่มขืนผู้เสียหาย ก่อนจะขับขี่รถยนต์หลบหนีไป

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุม นายอัจฉริยะฯ (ผู้ต้องหา) ขณะนั่งอยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งห่างจากสำนักปฏิบัติธรรมไปประมาณ 1 กิโลเมตร และจากการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในน้ำปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามายัง สภ.หนองเรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบิกตัวผู้ต้องหาออกมาจากห้องควบคุม ผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีการควบคุมขณะถูกสวมใส่กุญแจมืออยู่ โดยวิ่งไปลักรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ที่จอดอยู่บริเวณริมถนน ก่อนจะขับหลบหนีไปทาง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ

ต่อมาทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว

ทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.4, กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.หนองเรือ โดยได้เน้นย้ำให้เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้ต้องหา เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใด และผู้ต้องหายังหลบหนีไปขณะอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่กระท่อมนาด้านทิศใต้สำนักปฏิบัติธรรม หมู่ที่ 8 ต.บ้านเม็ง อ.หนองรี จ.ขอนแก่น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้เข้าจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ ดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อประมาณปี 2553 หลังจากที่ตนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตนได้มาเรียนต่อที่โรงเรียนกีฬา จ.นครปฐม แต่เรียนไม่จบ จึงได้มาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ตนได้เดินทางมาทำงานรับจ้าง ทำไร่กระชาย และไร่พริก ในพื้นที่ติดกับสำนักปฏิบัติธรรม โดยทำงานมาได้ประมาณ 6 เดือน และในวันเกิดเหตุตนเมาสุราและเสพยาบ้า จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า
1.ปี 2560 ผู้ต้องหาถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา "ครอบครองและเสพยาเสพติดฯ" ถูกควบคุมความพฤติ 48 วัน
2. ปี 2562 ผู้ต้องหาถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา "เสพยาเสพติดฯ" ถูกควบคุมความประพฤติ 42 วัน
3. ปี 256ผู้ต้องหาถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา "จำหน่ายและเสพยาเสพติดฯ" ศาลสั่งจำคุก 1 ปี ที่เรือนจำกลางนครปฐม