svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ฟื้นฟูหลุมหลบภัย สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ฟื้นฟูหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 เนรมิตเป็นแลนมาร์คเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์เมืองเก่าอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดสร้างบ้านพิพิธภัณฑ์เจ้าเมืองนครราชสีมาและฟื้นฟูหลุมหลบภัย เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนแหล่งรวบรวมข้อมูลสำคัญนอกตำราทางประวัติศาสตร์

          เมื่อเวลา09.30น. วันที่13มีนาคม ที่วิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหารหรือวัดกลางนคร ถ.จอมพล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวีรพล จงเจริญใจ ประธานกรรมาธิการ สถาปนิกอีสาน สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา และกลุ่มนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมาและมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ร่วมจัดเวทีเสวนาประวัติศาสตร์ผ่านหลุมหลบภัยโคราชที่บ้านพระยากำธรพายัพทิศ (ดิส อินทโสฬล) อดีตผู้ดำรงตำแหน่งปลัดมณฑลและทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลำดับที่14 ( 2พฤศจิกายน2476ถึง1มีนาคม2479 )โดยมีนายอิทธิพล คัมภิรานนท์ ประธานภาคีอนุรักษ์เมืองนครราชสีมา ในฐานะเลขานุการชมรมผู้สืบสกุล ณ ราชสีมา และนางกรุณา นิลพันธุ์ อายุ70ปี ในฐานะทายาทตระกูลอินทโสฬส ณ ราชสีมา บอกเล่าเหตุการณ์ความเป็นมาของหลุมหลบภัย ซึ่งสร้างขึ้นช่วงระหว่างเกิดสงครามโลกครั้งที่2ปี พ.ศ2482-2488และแนวทางการบูรณะฟื้นฟูตามหลักวิชาการ

               นายอิทธิพล ประธานภาคีอนุรักษ์เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ค้นคว้าเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งจากการบอกเล่าของบรรพบุรุษ หนังสือจดหมายเหตุนครราชสีมาหนังสือประวัติศาสตร์และเว็บไซต์ต่างๆ ภายหลังไทยได้ประกาศสงครามกับสัมพันธมิตร สหรัฐอเมริกาได้ส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดในประเทศไทย เพื่อตัดเส้นทางลำเลียง จังหวัดนครราชสีมา เป็นหัวเมืองหลักเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทำให้กองทัพญี่ปุ่นเลือกมาตั้งค่ายทหารจึงเป็นพื้นที่เป้าหมายของการทิ้งระเบิดทำลาย ช่วงสงครามสิ่งที่จำเป็นของชุมชนคือหลุมหลบภัย เมื่อเกิดการโจมตีทางอากาศ เสียงหวอเตือนภัยจะดังขึ้น เพื่อให้ประชาชนวิ่งเข้าหลุมหลบภัยได้ทันท่วงที

ฟื้นฟูหลุมหลบภัย สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งท่องเที่ยว

            นางกรุณา ทายาทตระกูลอินทโสฬส ณ ราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเกิดมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ยุติได้ประมาณ6ปี จึงไม่ได้เข้าไปในหลุมหลบภัยในช่วงเกิดเหตุการณ์ระทึกใจและได้รับการบอกเล่าจากบรรพบุรุษ สมัยนั้นในตัวเมือง นครราชสีมา ยังไม่มีระบบน้ำประปาทางบ้านใช้หลุมหลบภัยเป็นที่เก็บกักน้ำอุปโภค บริโภค โดยรับน้ำฝนจากท่อรางบนหลังคาบ้าน2หลัง ทำให้ครอบครัวซึ่งมีญาติพักอาศัยร่วม10คน เป็นมีน้ำสะอาดใช้ในช่วงหน้าแล้งโดยไม่ขาดแคลน

 

ฟื้นฟูหลุมหลบภัย สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งท่องเที่ยว

        จากนั้นได้ไปสำรวจหลุมหลบภัยตั้งอยู่ภายในบ้านอินทโสฬส บริเวณประตูด้านทิศเหนือของวัดพระนารายณ์วรวิหาร ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยส่วนบุคคลสร้างเพื่อความปลอดภัยเจ้าเมืองนครราชสีมาและครอบครัวมีขนาดความจุประมาณ20คน สร้างในช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่2สันนิษฐานว่าทหารช่างของเมืองนครราชสีมาเป็นผู้สร้างลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด2 x 2.5เมตร ความลึกประมาณ2.4เมตร มีประตูทางเข้า2ฝั่ง เยื้องกันเป็นบันได9ขั้น กว้างประมาณ60-70เซนติเมตร ตัวหลังคาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมทรงปั้นหยามีช่องท่อระบายอากาศ2ด้าน วัสดุและโครงสร้างโครงสร้างพื้นด้านล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กหนา40เซนติเมตร ผนังทุกด้านเป็นผนังกินดินก่ออิฐฉาบปูนหนา40เซนติเมตร

ฟื้นฟูหลุมหลบภัย สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งท่องเที่ยว

       นายวีรพล จงเจริญใจ ประธานกรรมาธิการ สถาปนิกอีสาน ฯ กล่าวว่า เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานเป็นสิ่งปลูกสร้างและการบันทึกข้อความในเอกสารต่างๆ สามารถยืนยันความเป็นมาของจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นคุณูปการของชาวโคราช สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอขอบคุณทายาทตระกูลอินทโสฬส ณ ราชสีมา ได้ให้ความอนุเคราะห์กับคณะทำงานเป็นอย่างดี

ฟื้นฟูหลุมหลบภัย สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งท่องเที่ยว

        ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดสร้างบ้านพิพิธภัณฑ์เจ้าเมืองนครราชสีมาและฟื้นฟูหลุมหลบภัย เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนแหล่งรวบรวมข้อมูลสำคัญนอกตำราทางประวัติศาสตร์เส้นทางของเจ้าเมืองนครราชสีมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี เป็นประโยชน์แก่เด็กเยาวชนรุ่นหลังโดยเฉพาะนักวิชาการผู้สนใจทางด้านประวัติศาสตร์รวมทั้งเชื่อมโยงเป็นแหล่งท่องเที่ยวตัวเมืองเก่าโคราช ที่มีอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) วัดเก่า6แห่ง ตั้งอยู่ในคูเมืองและพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่

ฟื้นฟูหลุมหลบภัย สมัยสงครามโลกครั้งที่2 เป็นแหล่งท่องเที่ยว