คำกล่าวเปิดญัตติ โดย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล (16 - 19 ก.พ.2564)กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ
ผม... นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งได้ยื่นต่อท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ผมขอกล่าวสาระสำคัญในญัตติดังกล่าว ดังนี้...ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ...
ผมขอกล่าวว่า.....
วันนี้ เป็นวันที่จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะเป็นวันเริ่มต้นนับถอยหลังไปสู่จุดจบของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา4 วันนับจากนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน
จะเปิดเผยความไร้ประสิทธิภาพ ขลาดเขลา เบาปัญญาของผู้บริหารประเทศอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาจะเปิดโปงการทุจริตฉ้อฉลของพลเอกประยุทธ์และคณะและจะเปิดหน้ากากของพลเอกประยุทธ์ ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำร้ายประเทศชาติบั่นทอนประชาธิปไตย และคุกคามเสรีภาพของประชาชนเวลา 6 ปี 8 เดือน 26 วัน ที่พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศนี้ ทั้งในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการรัฐประหาร และในฐานะนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบเพื่อพลเอกประยุทธ์และพวกพ้อง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติพังพินาศ ประชาชนทุกข์ยากแสนเข็ญยิ่งกว่ารัฐบาลใดๆ ในรอบ 8 ทศวรรษ
ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ธุรกิจใหญ่น้อยล้มละลายทั่วทุกหัวระแหง ยิ่งกว่าวิกฤตเศรษฐกิจทุกครั้งที่ผ่านมารวมกัน
ประชาชนมีความทุกข์ยากอย่างถึงที่สุด อึดอัดคับข้องใจในชะตากรรมที่ต้องใช้ชีวิต ภายใต้การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์มากที่สุด และสุดท้าย ต้องตัดสินใจจบชีวิตตัวเองมากที่สุด
ผู้ชายคนหนึ่งสิ้นหวังในชีวิตเพราะตกงาน จึงพาบุตรสาวตัวน้อยพเนจรไปพึ่งพาวัดธรรมนิยม ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเมื่อทุกข์ที่สุดจนสุดจะทานทน ในวันที่ 19 เมษายน 2563 เขาตัดสินใจโดดน้ำเพื่อหนีไปให้พ้นจากชีวิตที่มืดมน แต่ยิ่งน่าเศร้าใจ เมื่อบุตรสาววัย 5 ขวบร้องว่า "พ่ออย่าทิ้งหนู" แล้วกระโดดน้ำตามพ่อของเธอลงไป ในที่สุดจมน้ำตายทั้งพ่อลูกท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ...
ผมอยากรู้จริงๆ ว่า ในใจพลเอกประยุทธ์รู้สึกอย่างไร สะเทือนใจไปด้วยหรือไม่ ประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของพลเอกประยุทธ์ทุกข์ยากเช่นนี้ เขานอนหลับลงในแต่ละคืนได้อย่างไร เขายังยิ้มแย้มสำเริงสำราญได้อย่างไร
พลเอกประยุทธ์ไม่เคยทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้เมื่อเกือบ 7 ปีที่แล้ว ว่าจะคืนความสุขมาให้ประชาชน
แทนที่พลเอกประยุทธ์ จะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เขากลับเอาตนเองเป็นศูนย์กลางแทนที่พลเอกประยุทธ์ จะแสวงหาทางออกในทุกปัญหา เขากลับตีโพย ตีพาย เห็นปัญหาในทุกทางออกแทนที่พลเอกประยุทธ์ จะคิดเก่ง ทำเก่ง ดังเช่นที่เขาเคยโอ้อวดว่า การบริหารประเทศไม่เห็นยากเลย พลเอกประยุทธ์กลับบริหารประเทศแบบคิดไป ทำไป ไม่มีการวางแผน ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุม กลับไปกลับมา และโยนความผิดให้ประชาชน ทำให้เมื่อเผชิญวิกฤตอย่างโรคโควิด -19 ประชาชนจึงทุกข์แสนสาหัส ธุรกิจใหญ่น้อยจึงทยอยล้มลง แม้ธุรกิจที่ยืนหยัดต้านทุกวิกฤตมาได้หลายสิบปี ก็ต้องปิดกิจการในยุคของพลเอกประยุทธ์พลเอกประยุทธ์ลืมไปว่า ประชาชน 67 ล้านคนจ่ายเงินเดือนให้เขามาทำงาน เพื่อทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยประชาชน มากกว่าห่วงการรักษาอำนาจของตนเองประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรี ที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่านายกรัฐมนตรีที่สนใจแต่ความนิยมในโพลที่ลิ่วล้อบริวารเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาพลเอกประยุทธ์ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่สามารถรวมพลังผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ
พลเอกประยุทธ์ได้แต่อวดอ้างไปวันๆ ว่า ตนซื่อสัตย์ แต่กลับนิ่งดูดาย วางเฉยให้พวกพ้องและบริวารทุจริตฉ้อฉลรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จึงเป็นได้เพียง
"รัฐบาลปรสิต" ที่กัดกร่อนอนาคตของประเทศและกลืนกินความฝันของประชาชน รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ...
วันนี้ เรามาประชุมร่วมกันในที่นี้ เพื่อร่วมกันยืนยันให้ประชาชนได้ประจักษ์ว่า การเมืองในระบบรัฐสภา ยังเป็นที่พึ่งหวังให้กับประชาชนได้
ดังนั้น เราต้องร่วมสร้าง "การเมืองแห่งความหวัง".....เราจะประกาศศักดิ์ศรีของนักการเมืองที่รักประเทศชาติ รักประชาชน ว่าพร้อมจะทำหน้าที่อย่างองอาจ ไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจอยุติธรรม และไม่หวั่นไหวต่อผลประโยชน์ใดๆ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะอภิปรายคนแล้วคนเล่าไม่หยุดยั้ง เพื่อแสดงหลักฐานอย่างแจ้งชัดว่า เราไม่อาจยินยอมให้พลเอกประยุทธ์ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป แล้วฉุดรั้งให้ชีวิตประชาชน จมดิ่งสู่ความทุกข์ทนยิ่งกว่านี้อีก
เราเชื่อมั่นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นแสงแห่งความหวังที่ส่องสว่างไปทุกแห่งหน เพื่อไล่ความมืดมนที่พลเอกประยุทธ์สร้างไว้มาเกือบ 7 ปี และเพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า จากแม่สายถึงเบตง จากแม่สะเรียงถึงศรีเมืองใหม่ว่า เราต้องมีความหวังอยู่เสมอ
เพราะจุดจบของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์กำลังมาถึงในไม่ช้านี้
ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ.....
หลังจากที่ผมได้พูดญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจบ ผมจะขออนุญาตให้ ท่านสุทิน เป็นผู้อภิปรายขยายประเด็นของผมในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป
ขอขอบคุณ ท่านประธานสภาฯ