
พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม ผกก.สส.3ฯ, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก, พ.ต.ท.สุพจน์ ฉลาด รอง ผกก.ป.สภ.ช้างเผือกและชุดงาน ปจร.สภ.ช้างเผือก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ศพดส.ภ.5 ได้แก่ พ.ต.ท.ธวัชวงค์ ชูกิจคุณ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5, พ.ต.ท.หญิง วรรณภา โชตินอก สว.ฝอ.บก.สส.ภ.5,ได้ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหาและทำได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ถูกจับ คือ นายสุธี ปิ่นแก้ว อายุ 39 ปี ที่อยู่ 61 หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งต้อม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่า "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" หลังการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับกุมทราบและเข้าใจในข้อกล่าวหาเป็นอย่างดีแล้ว ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พฤติการณ์แห่งการจับกุม ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ(ไม่ประสงค์ออกนาม) ว่า ได้ติดตามข้อมูลบุคคลรายหนึ่งทางโซเชียลมีเดีย พบว่ามีชายไทย ไม่ทราบชื่อ มีอาชีพเป็นครู สอนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ มีพฤติกรรม ชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง และสายลับพยายามเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐานให้มากที่สุด ต่อมาตามวัน เวลาเกิดเหตุ สายลับได้พบเห็นชายคนดังกล่าว ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีออส สีเทา ทะเบียน กว 1066 เชียงใหม่ มาจอดรับหญิงสาว ไม่ทราบชื่อ นามสกุล บริเวณหน้าห้างเมญ่า ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และขับออกไป
สายลับเมื่อพบเห็นดังนั้น จึงขับรถตามไปจนพบว่า รถคันดังกล่าว เลี้ยวเข้าไปภายในถนนโพธาราม และเลี้ยวเข้าไปจอดภายใน โรงแรมเลิฟโบ้ท ห้องพัก บี3 สายลับจึงโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก และเจ้าหน้าที่ ชป.ศพดส.ภ.5 ให้เข้ามาสนับสนุนตรวจสอบห้องพักหมายเลขดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาถึง ได้แสดงตนเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว พบนายสุธี ปิ่นแก้ว อายุ 39 ปี อยู่ภายในห้องกับ นางสาวอุ้ม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียน ระดับชั้นมัธยม
โดยผู้ถูกจับกุมให้การว่าทั้งคู่เป็นแฟน คบหาดูใจกันมาหลายปี ตำรวจชุดจับกุมพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่นายสุธี ปิ่นแก้ว ผู้ถูกจับกุม พาหญิงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี มาจากการปกครองดูแล ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล พามาในที่อโคจร โรงแรมม่านรูด ประสงค์มุ่งหวังเพื่อการอนาจาร ถือเป็นความผิดข้อหา "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
อย่างไรก็ตามทางผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ได้สอบถามไปยังชุดจับกุมอ้างว่ายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากกว่านี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมเชื่อว่าครูคนดังกล่าวจะเคยกระทำกับลูกศิษย์มาแล้วหลายครั้ง หลายๆคน