svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

กลุ่มบ้านโนนสังข์มีเฮ ลุ้นรับชดเชยเขื่อนหัวนา 52 ล้าน

กลุ่มผู้เดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนหัวนา กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ มีเฮ ลุ้นรอรับการจ่ายค่าชดเชย ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนหัวนา ก้อนแรก 82 แปลงที่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นเงิน 52 ล้านบาท นอกนั้นรอรังวัด

วันที่ 21 มกราคม 2564 ที่ กลางหมู่บ้านโนนสังข์ ตำบลโนนสังข์ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ นายกฤษกร หรือ ป้าย ศิลารักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนหัวนา ได้นัดหมายประชุมแจ้งความคืบหน้าผลของการประชุมร่วมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ผู้ที่รับผิดชอบในการพิจารณายกร่างเสนอการจ่ายเงินเยี่ยมยา ผลกระทบของการสร้างเขื่อนหัวนา ซึ่งเมื่อวานนี้ ( 20 มค.2564 ) ได้มีการประชุมผ่านระบบ VDO จากห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มายังห้องประชุมชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ พิจารณากรอบการจ่ายเงิน ซึ่งที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินเยี่ยมยาแก่เกษตรกรเจ้าของที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นชุดแรก จำนวน 82 แปลง โดยพิจารณาจ่ายค่าชดเชย ไร่ละ 125,000.-บาท รวมแล้ว พี่น้องเกษตรกรที่เดือนร้อน ที่ได้ทำเรื่องร้องขอต่อคณะรัฐบาลมาหลายสมัย เป็นเวลา กว่า 29 ปี จะได้รับเงินก้อนแรก 52 ล้านกว่าบาท นอกนั้นในส่วนของพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ จะต้องมีการลงพื้นที่เดินสำรวจ ประกาศรับรองคัดค้านพื้นที่ ก่อนจ่าย









กลุ่มบ้านโนนสังข์มีเฮ ลุ้นรับชดเชยเขื่อนหัวนา 52 ล้าน









โดย นายกฤษกร หรือ ป้าย ศิลารักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มโนนสังข์ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนหัวนา มี ใน 5 อำเภอ คือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ, อำเภอกันทรารมย์, อำเภอยางชุมน้อย, อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอราษีไศล ที่ผ่านมากว่า 29 ปี เกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ร้องขอให้คณะทำงานได้เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งภายหลังตรวจสอบแล้ว ที่มีข้อมูลชัดเจนที่สุดก็จะอยู่ที่อำเภอกันทรารมย์ โดยมีเอกสารสิทธิ์ยืนยัน 82 แปลง ต่อไปก็จะเป็นชุดที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ อำเภอกันทรารมย์ ประกาศยืนยันไปแล้ว 241 แปลง อำเภอราษีไศล ประกาศไปแล้ว 98 แปลง อำเภอเมืองศรีสะเกษ ประกาศไปแล้ว 52 แปลง ซึ่งจะต้องนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุม เพื่ออนุมัติจ่ายเงินชดเชยตามลำดับต่อไป ซึ่งเกษตรกรก็มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่เบี้ยว เพราะได้มีการทำงานร่วมกันมาโดยตลอดเป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับตามกฎหมาย ที่ดินก็จะถูกโอนกรรมสิทธิ์ไปเป็นที่ดินของรัฐ  






กลุ่มบ้านโนนสังข์มีเฮ ลุ้นรับชดเชยเขื่อนหัวนา 52 ล้าน








ซึ่งกลุ่มผู้เดือดร้อนตอนนี้มีอยู่ 5 กลุ่ม คือ กลุ่ม สมัชชาชนคนจน ของนายประดิษฐ์ โกศล, กลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน ของนายศักดา กาญจนเสน, กลุ่มโนนสังข์ กันทรารมย์ ของพ่อแยม, มีกลุ่มกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ของ กำนัน บุญเพ็ง นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เป็นประธานกลุ่ม และกลุ่มราษีไศล ของผู้ใหญ่ชำนาญ ชินพันธ์ เป็นประธานอยู่ ซึ่งก็ได้ทำงานร่วมกัน ตั้งคณะกรรมการร่วมกันมาโดยตลอด ตอนนี้จำนวนพื้นที่ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว 1,200 กว่าแปลง และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 2 พันกว่าแปลง รวมๆ แล้วที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดก็ราว 3 พันกว่าแปลง คิดเป็นจำนวนไร่ ก็ประมาณ 2,800 กว่าไร่  






กลุ่มบ้านโนนสังข์มีเฮ ลุ้นรับชดเชยเขื่อนหัวนา 52 ล้าน










ขณะที่ คุณยาย ลอย สืบวงศ์ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 2 ต.โนนสัง อ.กันทรรมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวด้วยความดีใจที่จะได้เงินชดเชย ว่า ยายรอมานานมากแล้ว กลัวรอต่อไปไม่ไหว อายุก็มากขึ้นทุกวัน อยากจะฝากบอกไปที่รัฐบาล ฝากบอกคุณตาประยุทธ ว่า คุณยายอยากจะได้เงินค่าชดเชยโดยเร็ว เพราะคุณยายอายุมากแล้ว กลัวจะอยู่ได้ไม่นาน จะไม่ทันได้ใช้เงินค่าชดเชย พื้นที่ของยายมี 3 ไร่น้ำท่วมหมดแล้ว เงินที่ได้มาก็จะเก็บไว้ให้ลูกหลานไว้ทำศพตนเอง ทุกวันนี้ก็ได้เงินจากบัตรประชารัฐ มาซื้อของใช้ และได้เบี้ยงยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 700 บาท พอได้เอาจ่ายค่าไฟฟ้าบ้านยาย ซื้อหมากเคี้ยวก็พออยู่    











ส่วนคุณตาอุทัย กิ่งบู อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 14 ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ของคุณตามีพื้นที่ 2 ไร่ ที่ถูกน้ำท่วม ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนหัวนา ไม่มาก แต่ก็รอมานานมาก เมื่อได้เงินค่าชดเชยแล้ว คุณตาก็จะนำเงินมาใช้หนี้ อันที่จริงภาระหนี้ก็มีมากอยู่ เพราะลูกหลานละทิ้งไร่นา เข้ากรุงเทพ ตนจึงไปกู้เงินธนาคารฯ มาซื้อเอาไว้แทน หากได้เงินชดเชยมาก็พอที่จะได้ไปใช้ดอกเบี้ยภาระหนี้บ้างเท่านั้น      

กลุ่มบ้านโนนสังข์มีเฮ ลุ้นรับชดเชยเขื่อนหัวนา 52 ล้าน