โดยตัวของ"บังมีน" เป็นกุญแจที่ไขสู่ความแก๊งค้ายาที่ชื่อว่า "แก๊งเป็นต่อ" และ "แก๊งตาพูล" ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีโดยเปิดธุรกิจแต่งรถซิ่งบังหน้า
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รวบตัวนายอมรเทพ เฉลิมรัตน์หรือฉายา "อั๋น กีวี่"ผู้ต้องหาเครือข่ายเคนมผง ได้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขยายผลจนไปเจอเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่จังหวัดนครปฐม "เปิ้ลกำแพงแสน" จนนำไปสู่การวิสามัญฯ พร้อมกับพบของกลางเป็น "เคนมผง"
นอกจากนี้ แนวทางการสืบสวนยังพบอีกว่า แก๊งมิคาโดะจะมีการส่งคนภายในแก๊งไปที่อยู่ที่ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาเสพติด เมื่อผลิตยาเสพติดได้ตามจำนวนที่ต้องการแล้วก็จะขนยาเสพติดกลับเข้ามาในประเทศ โดยจะนำยาเสพติดไปพักไว้ในกรุงเทพมหานครและพื้นที่เขตปริมณฑล
เมื่อย้อนกลับไปดูข้อมูลทำเลที่แก๊งมิคาโดะเข้าไปพำนักในเขตเมืองกรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี 2554 จะมีอยู่ 3 พื้นที่หลักๆคือ พื้นที่สน.โชคชัย / พื้นที่ สน.พหลโยธิน และพื้นที่ สน.สายไหมซึ่งจะเลือกทำเลทองที่เอื้อประโยชน์ต่อการพักและจำหน่ายยาเสพติด เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของแก๊งค้ายานรก เพราะอยู่ใจกลางกรุงมีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนมาก ที่สำคัญลักษณะทางกายภาพ มีทั้งหอพัก อพาร์ตเมนต์ร้านเหล้า ผับ บาร์ และมหาวิทยาลัย ไม่ต่างอะไรกับ "รังปลวก" ซึ่งสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนพหลโยธิน และถนนรามอินทราที่สำคัญยังสามารถข้ามไปยังจังหวัดปทุมธานี โดยผ่านเส้นทางอำเภอลำลูกกาได้อย่างไม่ยาก
ขณะที่จำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากการใช้ "เคนมผง"มีจำนวนมากถึง 10 รายแล้ว ประกอบด้วย ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 6 ราย / สน.สุทธิสาร1 ราย / สภ.บางบัวทอง 1 ราย และ สน.โชคชัย 2 ราย จะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดของแก๊งเคนมผง เริ่มขยายออกไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มมากขึ้นและลุกลามไปถึงในจังหวัดนครปฐมอีกด้วย
"ทีมข่าวข้นคนข่าว"ยังได้รับข้อมูลจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตสายไหม คือ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพซึ่งได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดที่ทำให้คนในพื้นที่เขตสายไหมเกิดอาการคุ้มคลั่งซึ่งมีสาเหตุมาจากการเสพสารเสพติด ที่ชื่อว่า "เคนมผง"นั่นเอง ซึ่งแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่เขตสายไหม ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเพื่อทดแทนการขาดตลาดของเคตามีน
จากผลการสำรวจพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นใช้ยาเค ประมาณ 1,000 คน โดยแบ่งพื้นที่คือ แขวงคลองถนน ประมาณ 600 คน / แขวงสายไหม ประมาณ 300 คน และ แขวงออเงิน ประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่ผู้เสพมีฐานะปานกลางไปถึงฐานะค่อนข้างดี
ที่น่าตกใจก็คืออายุน้อยที่สุดที่เสพยาเคเพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้น โดยมีพฤติกรรมจากการลองกินน้ำกระท่อมที่บ้านของรุ่นพี่และตัวของรุ่นพี่ได้นำยาเคตามีนมาให้ลองเสพจนทำให้ติดมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสพมีความต้องการเสพ อย่างน้อยวันละ 1 - 2 กรัม หากคิดจากจำนวน 1,000 คนจำนวนการใช้เคตามีน จะตกอยู่ที่ประมาณ 1 - 2 กิโลกรัมต่อวัน ส่วนตัวเม็ดเงินที่กลุ่มผู้เสพต้องสูญเสียจากการซื้อยาเสพติด อยู่ที่ประมาณ800,000 - 1,600,000 บาทต่อวัน หรือหากคิดเป็นรายเดือน จะอยู่ที่เดือนละ 24,000,000- 48,000,000 ล้านบาท
มีรายงานระบุอีกว่าหลังจากที่ "ทีมข่าวข้นคนข่าว"ได้นำเสนอข้อมูลตัวละครที่อาจจะมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายแก๊งมิคาโดะได้มีผู้ชายคนหนึ่ง ได้เข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหมพร้อมลงบันทึกประจำวัน แสดงความไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งเคนมผง โดยระบุว่าผู้ที่มาแจ้งมีชื่อเล่นว่า "อามีน" และนับถือศาสนาอิสลาม จึงมีฉายาว่า "บังมีน" โดยผู้แจ้งได้ประกอบอาชีพทำธุรกิจค้าขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ อยู่ที่ตลาดทรัพย์เจริญ ในพื้นที่เขตสายไหมโดยยืนยันว่า ผู้แจ้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับแก๊งหรือบุคคลที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างได้และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือยาเคนมผงโดยมิได้ประสงค์จะดำเนินการทางอาญาด้วย